บล็อกเชนชั้นที่ 1 ที่เกิดขึ้น: การศึกษาลึกลงในนิเวศของ Mantle - จากพื้นฐานไปสู่นิเวศ

บทความนี้ให้การวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่เลเยอร์ 2 ของโครงการ Mantle โดยในบทความนี้จะมีการสำรวจเกี่ยวกับโทเค็นออนอมิกส์ของ Mantle, การพัฒนาระบบนิเวศ, สถาปัตยกรรมทางเทคนิค, และผลงานในตลาดโดยเน้นที่ตำแหน่งที่นำด้าน DeFi, GameFi และ liquid staking

1. ภาพรวมของแมนเทิล

1.1 แนะนําโครงการ

ภาพรวม

การแข่งขันบล็อกเชน Layer 1 เสมอมาเป็นสนามรบหลักของ Web3 ตั้งแต่ Ethereum เริ่มต้นจำนวนมากของผู้แข่งขันได้เกิดขึ้น การสร้างต่อ Ethereum การแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงเป็นการต่อสู้ของเรื่องราว Layer 2 scaling solutions ที่กำลังเข้ามา ซึ่งนำเสนอยุคที่สิบ L2 solutions แข่งขันเพื่อความเป็นผู้นำ ขณะที่แผนที่นี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังเป็นที่ชัดเจนว่านวัตกรรมทางเทคนิคและประสิทธิภาพสูงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เครือข่ายบล็อกเชนคล้ายกับอาณาจักรดิจิตอล - ต้องมีระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและความเห็นสองข้างที่แขกนักพัฒนาและผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีรายได้ที่มั่นคง

ในสนามแข่งขันที่แข็งแกร่งนี้ Mantle ได้เป็นม้ามืดที่เก่งกว่า ตั้งแต่เปิดตัวเมนเน็ตหลักของมันในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 เค้าได้รวดเร็วขึ้นเป็นเครือข่ายเลเยอร์ 2 อันดับ 4 โดยมีการล็อกค่าเฉลี่ย (TVL) เพียงเพียงประมาณหนึ่งปีเท่านั้น ด้วยกองทัพขนาด 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Mantle ได้รับการยืนยันตนเองว่าเป็นตัวเลือก L2 ชั้นนำและพร้อมที่จะเข้าร่วมกลุ่มชั้นนำของบล็อกเชนชั้นนำ

แต่แมนเทิลประสบความสําเร็จในการเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งได้อย่างไรและอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร? บทความนี้จะให้การสํารวจเชิงลึกของคําถามเหล่านี้

ตอบเรื่องสำคัญ

1.2 โทเค็นออนอมิกส์

โทเค็น $MNT ทําหน้าที่เป็นทั้งโทเค็นการกํากับดูแลและยูทิลิตี้ภายในระบบนิเวศของ Mantle โดยมีอุปทานทั้งหมด 6.219 พันล้านโทเค็น ในฐานะที่เป็นโทเค็นการกํากับดูแล $ MNT ให้สิทธิ์ในการลงคะแนนในกระบวนการตัดสินใจของ Mantle ในฐานะที่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้มันถูกใช้เพื่อชําระค่าธรรมเนียมก๊าซบนเครือข่าย Mantle และทําหน้าที่เป็นสินทรัพย์รางวัลหลัก

การออกแบบสองวัตถุประสงค์นี้ทําให้ Mantle แตกต่างจากเครือข่าย L2 อื่น ๆ เนื่องจากการใช้ $ MNT สําหรับค่าธรรมเนียมก๊าซสร้างแรงกดดันต่อมูลค่าของมัน

ตามภาพรวมอย่างเป็นทางการของ Mantle จากสแนปช็อตในวันที่ 7 กรกฎาคม 2023 การกระจายครั้งแรกของ $MNT มีดังนี้:

ที่มา: Mantle

แผนภูมิการแจกจ่ายเผยให้เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของโทเค็น $MNT ถูกถือครองโดย Mantle Treasury ทําให้พวกเขา "ไม่หมุนเวียน" การจัดสรรโทเค็นเหล่านี้อยู่ภายใต้กระบวนการกํากับดูแลของ Mantle โดยมีงบประมาณการระดมทุนและการกระจายตามแนวทางขั้นตอนที่เข้มงวด หลังจากการจัดสรรครั้งแรกโทเค็น $ MNT ของ Mantle Treasury จะถูกเติมเต็มผ่านการบริจาคของบุคคลที่สามและรายได้ค่าธรรมเนียมก๊าซจากเมนเน็ตแมนเทิล

งบประมาณหลักของ Mantle ได้รับการจัดสรรเป็นหลักใน $ MNT สําหรับค่าใช้จ่ายและรางวัลต่อไปนี้: แรงงานค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหารการตลาดระบบนิเวศและโปรแกรมสร้างรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัย

ใน MIP-31 ที่เพิ่งผ่านไปในเดือนกันยายน 2024 Mantle ได้ร่างแผนงบประมาณใหม่สําหรับรอบงบประมาณที่สอง (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025) โดยมีการจัดสรรที่สําคัญโดยตรง: การวิจัยและพัฒนาและการเติบโต (15 ล้าน$USDx และ 20 ล้านดอลลาร์ MNT) และการตลาด (12 ล้าน$USDx และ 20 ล้านดอลลาร์ MNT) แมนเทิลได้ร่วมมือกับหน่วยงานการตลาดและหน่วยงานวิจัยต่างๆ รวมถึงสื่อที่มีชื่อเสียงและองค์กรวิจัย เช่น Bankless, Unchained Podcast, Delphi Digital และ Messari รวมถึงผู้นําทางความคิดที่มีอิทธิพล ซึ่งทั้งหมดได้รายงานเกี่ยวกับ Mantle

รายละเอียดงบประมาณของ Mantle; ที่มา: Mantle

ภาพรวมของข้อมูลสำคัญ 1.3

Project Metrics

มาสํารวจการเติบโตของ Mantle ในปีที่ผ่านมาโดยใช้จุดข้อมูลเปรียบเทียบที่หลากหลาย Mantle เปิดตัว mainnet เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2023 หลังจากช่วงที่มีเสถียรภาพโครงการมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในต้นปี 2024

ณ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มูลค่ารวมของ Mantle Locked (TVL) อยู่ที่เพียง 400 ล้านดอลลาร์ ในอีกสี่เดือนข้างหน้า พุ่งขึ้นมากกว่า 300% แตะระดับสูงสุดเกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์ภายในเดือนเมษายน ในขณะที่เขียน TVL แบบออนเชนล่าสุดของ Mantle อยู่ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์ซึ่งอยู่ในอันดับที่สี่ในบรรดาเครือข่าย Layer 2 ในฐานะที่เป็นตัวบ่งชี้สําคัญของการพัฒนา L2 TVL สะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ความเชื่อมั่นของตลาดและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ การเติบโตของ TVL อย่างรวดเร็วมักแสดงถึงความไว้วางใจและการยอมรับของผู้ใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Mantle ในการจัดหาสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง

ข้อมูล Mantle TVL; แหล่งที่มา: l2beat, 2024/10/31

ในเชิงของ in-dApp TVL แดชบอร์ด DeFiLlama นั้นมีการแสดงผลที่ชัดเจนของการสร้างสรรค์ระบบนิเวศของ Mantle โดยที่ผู้มีส่วนร่วมหลัก ประกอบด้วย DeFi sectors เช่น DEXs, lending และ restaking การเติบโตอย่างรวดเร็วของ DEX-related TVL ยืนยัน DeFi เป็นศูนย์กลางสำหรับ Mantle

Mantle Ecosystem TVL; แหล่งที่มา: DeFiLlama, 2024/10/24

หลังจากตรวจสอบพื้นฐาน TVL แล้ว เรามาดูกิจกรรมบนลูกโซ่ของ Mantle กันดีกว่า เมื่อโซลูชัน L2 เกิดขึ้นมากขึ้นก็เหมือนกับการสร้างทางหลวงที่ใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก แต่มีรถยนต์เพียงไม่กี่คันบนท้องถนนเนื่องจากขาดความต้องการนี่เป็นปัญหาทั่วไปที่โครงการ L2 ส่วนใหญ่ต้องเผชิญ: การไม่มีแอปพลิเคชันคุณภาพสูง ดังนั้นการวัดความเจริญรุ่งเรืองของ L2 ผ่านหมายเลขผู้ใช้ปริมาณธุรกรรมและเมตริกอื่น ๆ จึงมีความหมายมากขึ้น สิ่งที่เราได้เห็นในข้อมูลการเติบโตของ Mantle สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่น่าประทับใจ

ในแง่ของผู้ใช้ทั้งหมด Mantle มีผู้ใช้ประมาณ 330,000 คนในเดือนธันวาคม 2023 และภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2024 จํานวนผู้ใช้ทั้งหมดทะลุ 4.42 ล้านคนซึ่งเพิ่มขึ้น 13 เท่าในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ใช้จํานวนมากขึ้นกําลังเข้าสู่ระบบนิเวศของ Mantle

ข้อมูลผู้ใช้ Mantle; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

ผู้ใช้งานรายวัน (DAU): Mantle มีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปลายเดือนเมษายน 2024 โดยยังคงรักษาค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้นหลังจากนั้น ปัจจุบันผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ประมาณ 40,000 คนซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับระดับเดือนกันยายน 2023

ข้อมูล DAU ของ Mantle; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

ปริมาณธุรกรรม: โดยถึงวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ปริมาณธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่ายของ Mantle เกิน 150 ล้านรายการ โดยมีจำนวนสูงสุดในแต่ละวันเกิน 2.2 ล้านรายการ ระดับนี้ของกิจกรรมสะท้อนถึงความร่วมมือของเครือข่ายที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมบนเครือข่ายทำให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเครือข่ายสูงขึ้น ซึ่งแสดงถึงการทำให้เครือข่ายเป็นอย่างยิ่งเอง

ข้อมูลธุรกรรมเสื้อคลุม; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

เมตริกสื่อสังคมออนไลน์

จนถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2024 Mantle ได้สะสมผู้ติดตามมากกว่า 800,000 คนบน X (ก่อนหน้านี้คือ Twitter) ชุมชนของ Mantle ใน Telegram และ Discord กิจกรรมต่อเนื่องอย่างมาก มีสมาชิกเข้าร่วมในการสนทนา AMA และการอัปเดตโครงการมากกว่า 200,000 คน ที่สำคัญ Mantle Discord community มียอดสมาชิกเกือบ 440,000 คน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน ทำให้เป็นหนึ่งในช่องทางการจัดการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

นอกเหนือจากการอัปเดตและการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งแล้ว Mantle ยังโฮสต์ AMA มากกว่า 120 รายการผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการและระบบนิเวศ เซสชันเหล่านี้นําโดย KOL และสมาชิกในทีมโครงการรวมถึงความคิดริเริ่มเช่น Mantle Ecowaves และ Mantle Showcase วิทยุ, ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเข้าร่วมของผู้ใช้และการใช้งาน

การเข้าร่วมของมันเทิลมีความเคลื่อนไหวทั่วโลกและครอบคลุมการจัดงานแบบสดในที่ต่าง ๆ มากกว่า 50 ครั้งจนถึงปัจจุบัน

1.4 หลักการสถาปัตยกรรมทางเทคนิค

Layer 2 (L2) rollups โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นสองหมวดหมู่: Optimistic Rollups (OP Rollups) และ Zero-Knowledge Rollups (ZK Rollups) Mantle Network ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี OP Rollup สำหรับการขยายขนาด L2 ของมันในขณะที่พัฒนาชั้นการให้ข้อมูลที่สามารถใช้ได้แบบโมดูลอิสระ (DA)

ออกแบบแบบโมดูลเล็กลงเพื่อลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

เมื่อพูดถึงบล็อกเชนแบบโมดูลาร์ สิ่งที่สำคัญคือเข้าใจแนวคิดของบล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกก่อน โดยในที่นี้จะใช้ Ethereum เป็นตัวอย่าง บล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกที่เป็นแบบเต็มวัยจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ชั้นหลัก ได้แก่ Execution Layer, Settlement Layer, Data Availability (DA) Layer, และ Consensus Layer แต่ละชั้นจะมีฟังก์ชันและบทบาทที่ไม่เหมือนกัน อย่างง่ายๆ การออกแบบโมดูลาร์ของ Mantle จะกระจายฟังก์ชันสี่อย่างนี้ไปยังชั้นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่การจัดการทั้งหมดในชั้นเครือข่ายเดียวเหมือนบล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกที่ส่วนใหญ่ ฟังก์ชันสี่อย่างนี้คือ

  • การดําเนินการธุรกรรม: สิ่งนี้เกิดขึ้นกับความเข้ากันได้กับ EVM ของ Mantle
  • ชั้นการดําเนินการและการตั้งถิ่นฐาน ซีเควนเซอร์ของ Mantle สร้างบล็อกบน L2 Execution Layer และส่งข้อมูลรูทของรัฐไปยังบล็อกเชนหลัก
  • การตกลงและการตกลงค่าเงิน: การดำเนินการโดยเครือข่าย Ethereum L1
  • ความพร้อมในการให้ข้อมูล: ชั้นความพร้อมในการให้ข้อมูลถูกพัฒนาอิสระโดยใช้ Eigen DA เพื่อให้ Mantle ส่งเฉพาะรากสถานะที่จำเป็นไปยัง Ethereum mainnet เพื่อเก็บข้อมูลการเรียก callback ที่มักจะถูกส่งออกไปยัง L1
  • การดึงข้อมูล: โหนดอื่น ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกรรมจากเลเยอร์ DA ของ Mantle ผ่านบริการ DTL ซึ่งข้อมูลได้รับการตรวจสอบและยืนยัน

ในโครงสร้าง OP Rollup แบบดั้งเดิม ค่าใช้จ่ายที่สูงของ calldata จะเกิดขึ้นเมื่อส่งข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดไปยังชั้น DA ของ Ethereum ของเลเยอร์ ซึ่งเมื่อปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจมีส่วนแสดงถึงรายจ่ายทั้งหมด 80–95% ซึ่งจำกัดความมีประสิทธิภาพในเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างรุนแรง ชั้น DA ของ Mantle Network ที่มีโมดูลลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวและความง่ายในการรวมเทคโนโลยีใหม่

ตัวจัดลำดับที่ไม่มีความเฉพาะทางทำให้ความเสี่ยงที่เกิดจากการกลายเป็นส่วนกลางหายไป

ซีเควนเซอร์มีบทบาทสําคัญในโซลูชัน L2 โดยการรวบรวมและสั่งซื้อธุรกรรมการคํานวณสถานะและการผลิตบล็อก พวกเขามีความสําคัญต่อความปลอดภัยของเครือข่าย อย่างไรก็ตามโซลูชันการยกเลิกแบบดั้งเดิมมักอาศัยโหนดซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์เดียวซึ่งมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวการจัดการหรือการเซ็นเซอร์ แมนเทิลแทนที่ซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์ด้วยคลัสเตอร์ซีเควนเซอร์แบบกระจายอํานาจที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งให้ข้อดีที่สําคัญหลายประการ:

ช่วยเพิ่มความพร้อมใช้งานของเครือข่ายขจัดความเสี่ยงของความล้มเหลวจุดเดียวและสร้างความมั่นใจในการทํางานอย่างต่อเนื่องของเครือข่าย ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของฉันทามติของเครือข่ายป้องกันการจัดการหรือการเซ็นเซอร์โดยซีเควนเซอร์และสร้างความมั่นใจในความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการทําธุรกรรม มันช่วยเพิ่มความเข้ากันได้ของแรงจูงใจของเครือข่ายขับเคลื่อนพฤติกรรมที่สอดคล้องกับซีเควนเซอร์ผ่านกลไกการให้รางวัลและสร้างความมั่นใจในความยั่งยืนในระยะยาวของเครือข่าย ในทางตรงกันข้ามซีเควนเซอร์ส่วนกลางต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสินค้าสาธารณะ

1.5 ภูมิทัศน์การแข่งขัน

คอนเจสชันบนเอเธอเรียมาสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับเรื่องราวสำคัญของบล็อกเชน ในบทความของเขา"ทรานส์ชันสาม"วิทาลิก บุเทริน ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่สำคัญสามอย่างที่เอเธอเรียมต้องผ่าน

  1. การเปลี่ยนไปใช้สเกลชั้นที่ 2 โดยที่ทุกคนนำ rollups มาใช้
  2. เปลี่ยนไปใช้ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินด้วยการนํากระเป๋าเงินอัจฉริยะมาใช้อย่างกว้างขวาง
  3. เปลี่ยนไปใช้ความเป็นส่วนตัวทําให้สามารถโอนเงินแบบส่วนตัวและปลอดภัยได้

บุทเทอรินเน้นว่าโดยไม่มีความก้าวหน้าของ Layer 2 Ethereum อาจเสี่ยงต่อการล้มเหลวเนื่องจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงเกินไป

ในที่นี้ พื้นหลังที่เป็นแบบนั้น พื้นที่เลเยอร์ 2 (L2) กำลังเป็นที่นิยมอย่างระเบิด ตาม L2Beat จำนวนรวมของ L2 หรือ L3 ที่กำลังใช้งานอยู่ ณ ปัจจุบันมี 110 ระบบในตลาด แต่เพียงไม่กี่ระบบที่ได้รับการยอมรับที่ระดับใหญ่ ซึ่งทำให้มีการล็อคค่าเงินรวม (TVL) และกลุ่มผู้ใช้ที่สำคัญ ตามล่าสุด ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 มูลค่า TVL รวมของ L2 ได้มาถึง 37.62 พันล้านเหรียญ, เติบไป 3 เท่าในช่วงปีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความต้องการที่แข็งแรง

ที่มา: l2beat, 2024/10/25

เทียบ Mantle กับ Leading L2 Solutions

จากมุมมอง TVL เซียน 3 อันดับแรกของโซลูชัน L2 - Arbitrum, Base และ Optimism - ครอบครองตลาดร่วมกันมากกว่า 73% ของส่วนแบ่งตลาด ม็อคกับ Mantle, ผู้เข้าร่วมใหม่ที่สุด, ได้เติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นชั้นที่ 2 ที่ใหญ่ที่สุดในเพียงหนึ่งปีหลังจากเปิดให้บริการ

การจัดอันดับ TVL L2(แหล่งที่มา: L2Beat, 31 ตุลาคม พ.ศ. 2024)

จากมุมมองของ Fully Diluted Valuation (FDV) แมนเทิลติดอันดับสามด้วย FDV ที่ 3.58 พันล้านเหรียญเปโซ เลื่อนอันดับเพียง Optimism และ Arbitrum เท่านั้น จากมุมมองของอัตราส่วน MC/FDV แมนเทิลเป็นอันดับหนึ่งที่ 54.1% แสดงให้เห็นถึงความกดดันการขาย MNT ในอนาคตที่สูง

แหล่งที่มา: CoinMarketCap, 26 ตุลาคม 2024 (รวบรวมโดย Klein Labs)

ในแง่ของรายได้และความสามารถในการทํากําไร Base แซงหน้า Arbitrum ในเดือนมีนาคมปีนี้เพื่อเป็น L2 ที่ทํากําไรได้มากที่สุด แมนเทิลครองตําแหน่งท็อปไฟว์อย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Dune, 26 ตุลาคม 2024

Mantle vs. บล็อกเชนที่รองรับจากเกต

ผู้สนับสนุนในช่วงต้นของ Mantle ได้แก่ Bybit ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสามทําให้ได้เปรียบอย่างชัดเจน ในส่วนนี้เราเปรียบเทียบ Mantle กับโซลูชันเลเยอร์ 2 อื่น ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยน

เมื่อพูดถึงบล็อกเชนที่รองรับการแลกเปลี่ยนตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่ BNB Chain และ opBNB ของ Binance, ฐานของ Coinbase และ X Layer ของ OKX ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม Kraken ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวเครือข่าย L2 ของตัวเอง หมึกมีกําหนดวางจําหน่ายเมนเน็ตในต้นปี 2025

ก่อนที่จะลงตัวลงไปในรายละเอียดของ L2 solutions เหล่านี้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจเกี่ยวกับอีกฝั่งของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ ตามลำดับของการจัดอันดับของ CoinMarketCap Binance, Coinbase และ Bybit เป็นแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามแห่ง โดย OKX และ Kraken รองลงมาอันดับที่ 4 และอันดับที่ 6 ตามลำดับ นี้หมายความว่า ห้าจากหกแห่งแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอันดับต้น ๆ ได้รับการสนับสนุนอย่างน้อยหนึ่งบล็อกเชน การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางกลยุทธ์สำหรับการแลกเปลี่ยน

การย้ายการแลกเปลี่ยนไปยังพื้นที่บล็อกเชนไม่เพียง แต่เป็นการขยายขอบเขตบริการแต่ยังเป็นการสํารวจการเปลี่ยนจาก "off-chain" เป็น "on-chain" แนวโน้มนี้จะแนะนําผู้ใช้และสินทรัพย์ขนาดใหญ่ให้ค่อยๆย้ายจากการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEX) ไปยังแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอํานาจ (DeFi) ขับเคลื่อนระบบนิเวศการซื้อขายไปสู่การกระจายอํานาจ ทั้งบล็อกเชนสาธารณะและการแลกเปลี่ยนมีความคล้ายคลึงกันพื้นฐาน: ทั้งคู่ต้องการสินทรัพย์ใหม่ที่จะออกและซื้อขายกับพวกเขาซึ่งจะสร้างรายได้ ประสบการณ์อันยาวนานของการแลกเปลี่ยนในการดําเนินงานสินทรัพย์และทรัพยากรอุตสาหกรรมคุณภาพสูงยังเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สําคัญสําหรับบล็อกเชนสาธารณะดังกล่าว

1.5.2.1 โซ่ BNB

BNB Chain (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Binance Chain) ได้เริ่มใช้งานในปี 2019 แสดงถึงการย้ายโทเคน BNB ที่เป็นโทเคนจาก Ethereum ที่เริ่มใช้งานในปี 2017 จากเครือข่าย Ethereum มายัง BNB Chain ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อจาก Binance Smart Chain (BSC) ผมเชื่อว่า BNB Chain เป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 แต่ยังคงมีการสนับสนุนอย่างแข็งขันจาก Binance ด้วย

ปัจจุบัน BNB Chain มี TVL 4.7 พันล้านดอลลาร์ ใช้ประโยชน์จากพื้นฐานการแลกเปลี่ยนและการสนับสนุนทางการเงินของ Binance BNB Chain ประสบความสําเร็จในการสร้าง DeFi เป็นหนึ่งในจุดแข็งหลักโดย PancakeSwap เป็นโครงการที่โดดเด่นที่สุด

ในขณะที่แหล่งเงินทุนและทรัพยากรทางเทคนิคของ Binance นั้นเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแลกเชนนี้กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับความกระจายอำนาจ ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์การแฮ็กในปี 2022 บน BNB Chain Binance ขอให้ผู้ตรวจสอบทั้งหมดระงับการทำธุรกรรมเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว การตอบสนองที่เป็นศูนย์กลางนี้เน้นให้เห็นถึงจำนวนผู้ตรวจสอบบนเชนที่จำกัดในเวลานั้นและระบุให้เห็นว่าโหนดส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดย Binance โดยตรงหรือโดยอ้อม

ความท้าทายที่สําคัญสําหรับบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยนเช่น BNB Chain อยู่ที่การสร้างสมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรการแลกเปลี่ยนในขณะที่บรรลุการกํากับดูแลแบบ on-chain ที่เป็นอิสระอย่างต่อเนื่องและรวบรวมจริยธรรมแบบกระจายอํานาจของ Web3

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 BNB Chain ยังเปิดตัวopBNB, แนวทางความสามารถในการขยายขอบเขตชั้นที่สองที่เข้ากันได้กับ EVM ที่พื้นฐานบน OP Stack ตามที่ DeFiLlama รายงาน opBNB ปัจจุบันมี TVL อยู่ที่ 21.6 ล้านดอลลาร์และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา

1.5.2.2 ฐาน

Base เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 2 บน Ethereum ที่บ่มเพาะโดย Coinbase เนื่องจาก Coinbase ถูกควบคุมโดย SEC Base จึงไม่สามารถออกโทเค็นของตัวเองได้ทําให้ไม่มีสิ่งจูงใจที่ใช้ tokenomics ตามธรรมชาติที่ L2 อื่น ๆ ได้รับ

แม้จะมีข้อ จํากัด นี้ Base ประสบความสําเร็จอย่างน่าทึ่งภายในหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว TVL ประสบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วสองครั้งในเดือนเมษายนและกันยายนปีนี้ซึ่งตอนนี้เกิน 2.4 พันล้านดอลลาร์ ฐานยังกลายเป็นแพลตฟอร์มสําหรับนวัตกรรมโดยมีโครงการที่โดดเด่นเช่น Friend.tech.

โครงการที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในการคำนวณ TVL ของ Base อยู่ทั้งหมด 5 โครงการจาก DeFi sector โดยโดดเด่นอยู่ที่ Aerodrome Finance อันได้รับอันดับหนึ่ง มีส่วนร่วมอย่างเกือบ 54% ของ TVL ของ Base กับจำนวน 1.3 พันล้านดอลลาร์ Aerodrome เป็น DEX ที่ใช้ AMM เปิดตัวบน Base เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2023

1.5.2.3 โครนอส zkEVM

Cronos ถูกเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2021 เป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 ที่เข้ากันได้กับ Ethereum โดย Crypto.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลอันดับ 13 ตัวอักษร อย่างไรก็ตามตั้งแต่การเปิดตัวในฐานะนั้น มูลค่ารวมของ Cronos (TVL) ก็ยังไม่สามารถเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังจากนั้น Cronos Labs ทีมพัฒนา Cronos ได้ร่วมมือกับ Matter Labs เพื่อเปิดตัว Cronos zkEVM ซึ่งเป็นเครือข่ายชั้นที่ 2 ที่ใช้เทคโนโลยี zk และได้เปิดให้บริการบน mainnet เมื่อเดือนสิงหาคมของปีนี้

ปัจจุบัน TVL ของ Cronos zkEVM อยู่ที่ประมาณ 17 ล้านดอลลาร์ซึ่งบ่งชี้ว่ายังค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับเครือข่ายชั้นนํา

1.5.2.4 X เลเยอร์

X Layer เป็นบล็อกเชน Layer 2 ที่ใช้ zk rollup ซึ่งเปิดตัวร่วมกันโดย OKX และ Polygon Labs ในเดือนเมษายนปีนี้ X Layer ใช้ OKB เป็นโทเค็นดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้เพื่อชําระค่าธรรมเนียมก๊าซได้ แผนในอนาคตสําหรับ X Layer รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคเพิ่มเติมและการปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาด เช่น การกระจายอํานาจซีเควนเซอร์ ปัจจุบัน X Layer มี TVL 9.3 ล้านเหรียญ

ในเชิงกลยุทธ์ TVL บล็อกเชน Base นั้นค่อนข้างอยู่ได้ไกลขึ้น ตามด้วย Mantle อยู่ในอันดับที่สอง ส่วน Cronos zkEVM และ X Layer ยังเล็กกว่าเทียบกับคู่แข่งของพวกเขา

แหล่งที่มา: DeFiLlama, 26/10/2024

1.6 การประเมินมูลค่าเบื้องต้น

โดยการเปรียบเทียบแนวนอนกับเครือข่ายชั้นที่ 2 อื่น ๆ เราสามารถประเมินความมั่นคงของระบบนิเวศและการประเมินมูลค่าได้อย่างสมเหตุสมผลซึ่งช่วยให้ประเมินศักยภาพในการพัฒนาของเครือข่ายชั้นที่ 2 ได้ดีขึ้น

ก่อนจะเปรียบเทียบ สิ่งสำคัญที่จะต้องระบุไว้คือ ในทางปฏิบัติ MNT ถูกใช้เป็นตัวแทนในการจ่ายค่า gas บนเครือข่าย Mantle แต่กับเครือข่าย Layer 2 อื่นๆ ที่ใช้ ETH เป็นตัวแทนในการจ่ายค่า gas ซึ่งควรพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่าย Layer 2 อื่นๆ เราได้คำนวณค่าที่สำคัญต่อไปนี้:

การเปรียบเทียบข้อมูล, ที่มา: Dune, DeFiLlama, Klein Labs, 2024/10/26

ดังที่เห็นเมื่อเทียบกับเครือข่ายเลเยอร์ 2 ที่ใช้ OP Rollup อื่น ๆ ระบบนิเวศของ Mantle ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม มากกว่า 50% ของโทเค็น MNT ดั้งเดิมมีการหมุนเวียนอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในการขายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อเทียบกับบล็อกเชนอื่นๆ นอกจากนี้ Mantle ยังประสบความสําเร็จอย่างน่าประทับใจใน TVL รายได้แบบ on-chain และเมตริกข้อมูลหลักอื่น ๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น เราเชื่อว่าในขณะที่ระบบนิเวศของ Mantle ยังคงเติบโตและเติบโตตําแหน่งการแข่งขันในพื้นที่เลเยอร์ 2 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. ระบบนิเวศแมนเทิล

ตามที่ Vitalik Buterin ได้กล่าวไว้ ระบบนิเวศของ public chain เป็นคุณสมบัติที่ทำให้มันมีความสามารถในการสู้ชีวิต นิเวศที่หลากหลายและคล้ายคลึงกันไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ใช้ใหม่มากขึ้น แต่ยังกระตุ้นผู้ใช้ปัจจุบันให้มีการมีส่วนร่วมในนิเวศอย่างหลากหลายและบ่อยครั้งขึ้น จากมุมมองนี้ การเติบโตของ Mantle ได้รับการสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญจากนิเวศที่กำลังขยายอย่างก้าวกระโดด โดยมีรอบการตลาดเป็นตัวสนับสนุนที่เชิงบวก

จากข้อมูลล่าสุดระบบนิเวศของ Mantle ตอนนี้โฮสต์มากกว่า 240 dApps รวมถึงโครงการ DeFi 89 โครงการโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 96 โครงการและโครงการ GameFi 20 โครงการ DeFi และโครงสร้างพื้นฐานครอบงํา สะท้อนให้เห็นถึงความสําคัญและความเจริญรุ่งเรืองของ DeFi ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของห่วงโซ่สาธารณะของ Mantle

ที่มา: Mantle, 2024/10/24 \
ต่อไปเราจะวิเคราะห์โครงการสำคัญบางรายในหมวดหมู่ใหญ่เหล่านี้:

2.1 บล็อกเชน DeFi

DeFi ทําหน้าที่เป็นรากฐานสําหรับห่วงโซ่สาธารณะใด ๆ และความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐาน DeFi ส่งผลกระทบต่อศักยภาพและเพดานโดยรวมของระบบนิเวศอย่างมีนัยสําคัญ Mantle มีโครงการ DeFi 36 โครงการในระบบนิเวศรวมถึง DEX การให้กู้ยืมและโปรโตคอลการปักหลักใหม่ ด้านล่างนี้คือโครงการบางส่วนในพื้นที่นี้:

2.1.1 อัคนีไฟแนนซ์

ภาพรวมของโครงการ: Agni Finance, ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 เป็น DEX แบบ AMM ของ Mantle ซึ่งเป็น DEX แบบ AMM ของ Mantle โดยเฉพาะ ที่ถือครอง TVL สูงสุดบน Mantle ($121 ล้าน) พร้อมมีปริมาณซื้อขายรวม $3.92 พันล้าน Agni เสนอ 6 สกุลเงินและ 20 คู่การซื้อขาย โดยคู่การซื้อขายที่เป็นที่สุดคึกคักคู่ METH/WETH ตามข้อมูลล่าสุดจาก CoinGecko ปริมาณการซื้อขายระหว่าง 24 ชั่วโมงของ Agni คือ $4.36 ล้าน

หลังจากประสบการณ์การเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน TVL ในเดือนกรกฎาคม 2023 Agni's TVL ถูกทำให้เสถียรที่มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แทนการเติบโต 2 เท่าจากไตรมาสที่ 2
X: @Agnidex

2.1.2 ทุน INIT

ภาพรวมของโครงการ: INIT Capital ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2023 เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ dApp และปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ มุ่งเน้นให้การเข้าถึงพูลสารสนเทศและการจัดการผลตอบแทนที่เชื่อมโยงทั้งหมดได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพ เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับความเคลื่อนไหวของเงินทุนดีไซด์เฟี้ย ในปัจจุบัน INIT รองรับกิจกรรมต่างๆ เช่นการให้กู้ยืมและกลยุทธ์ผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพ INIT ยังมีกิจกรรมใน Mantle และ Blast networks ในข้อมูลล่าสุด INIT Capital มีขนาดตลาดที่ 110 ล้านเหรียญ โดยมียอดกู้ยืมมากกว่า 24 ล้านเหรียญ

INIT Capital เสร็จสิ้นรอบเมล็ดพันธุ์มูลค่า 3.1 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยมี Electric Capital และ Mirana Ventures เป็นผู้นําการลงทุน

X: @InitCapital_

2.1.3 พ่อค้าโม

ภาพรวมโปรเจกต์: Merchant Moe ที่เริ่มต้นในปี 2024 เป็น DEX ภายใต้ Trader Joe ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับระบบนิทรรศการและชุมชน Mantle โดยเปิดตัวบน mainnet เมื่อมกราคม 2024 พร้อมกับ $MOE token ที่เปิดให้ใช้งาน Merchant Moe ในปัจจุบันเสนอ 14 สกุลเงินและ 22 คู่การซื้อขาย โดยคู่ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ METH/USDT

ตาม MIP-28 พ่อค้าโมจะได้รับการสนับสนุนในการเพิ่มความเป็นสากลจาก Mantle Treasury นอกจากนี้ พ่อค้าโมได้รับการสนับสนุนทุนเมล็ดพันธุ์จาก Mantle EcoFund

X: @MerchantMoe_xyz

2.1.4 Ondo Finance

ภาพรวมของโครงการ: Ondo Finance เป็นโปรโตคอลทางการเงินที่เน้นการติดตามสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) ธุรกิจหลักคือโทเค็นสินทรัพย์คุณภาพสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และกองทุนรวมตลาดเงิน ภายในกรอบที่สอดคล้องสําหรับการลงทุนและการซื้อขายที่ใช้บล็อกเชน เส้นทางพันธบัตร RWA U.S. ที่ Ondo ดําเนินการอยู่มี TVL เพิ่มขึ้นหกเท่าในปีที่ผ่านมาทําให้เป็นแรงผลักดันที่สําคัญในภาค RWA ตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 TVL ของ Ondo Finance เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่สามในพื้นที่ RWA มีข้อได้เปรียบในการเสนอญัตติแรกและคาดว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต Ondo Finance รองรับ 8 เชน โดย Mantle TVL อยู่ในอันดับที่สาม แซงหน้า Aptos, Arbitrum และ Sui

X: @OndoFinance

2.2 สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้ม

ในทางเทคนิค, สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้มเป็นสิ่งที่อยู่ในหมวดหมู่ DeFi แต่เนื่องจากความสำเร็จที่สำคัญที่ Mantle ได้ทำในพื้นที่นี้พร้อมกับการให้ความสำคัญต่อและการพัฒนาล่าสุด เราจะวิเคราะห์ส่วนนี้โดยแยกออก

ในวันที่ 23 ตุลาคม Bybit ได้เปิดตัว cmETH และประกาศแผนที่จะนำเสนอโทเค็นการบริหารงานของ mETH ที่ชื่อ COOK ซึ่งได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะลงตัวใน cmETH และ COOK จึงสำคัญที่จะเข้าใจก่อนว่า mETH คืออะไร

2.2.1 mETH

mETH เป็นโปรโตคอลการถือครองแบบไม่จำกัดสิทธิ์และไม่จำหน่าย ETH ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถือครอง ETH และได้รับ mETH ในอัตรา 1:1 ในปัจจุบัน mETH มีผู้ตรวจสอบ 15,025 คนและมี ETH ที่ถือครองมากกว่า 480,000 ETH.
เป็นโปรโตคอล LSD ของ Mantle ที่เกิดขึ้นภายใต้ mETH ได้รับการเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ในเวลาน้อยกว่า 1 ปี มูลค่าการเป็นเจ้าของรวมถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4

มองกลับไปที่บริบทของการสร้างของ mETH Ethereum สำเร็จการเปลี่ยนจาก PoW เป็น PoS เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 และ Lido Finance ได้จัดตั้งตำแหน่งผู้นำตลาดด้วย TVL 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เช่น Rocket Pool's rETH ทำให้ Liquid Staking (LSD) มีการแข่งขันอย่างสูง สำหรับ mETH ที่เพิ่งเริ่มต้นการสนทนารอบแรกในฟอรั่มการบริหาร Mantle ไม่มีความได้เปรียบเปราะหน้าที่เป็นผู้ประกอบการแรก

อย่างไรก็ตามหลังจากการพิจารณาและเตรียมการทางเทคนิคของชุมชนอย่างละเอียด โปรโตคอลการมั่นคงประจำชุมชนของ ETH เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม 2023 (เริ่มต้นในฐานะ Mantle LSP) ด้วยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของมัน mETH ก็เริ่มต้นเป็น “ผู้เล่นใหม่” ในอุตสาหกรรม LSD ที่แข็งแกร่งอย่างมาก

ตามรายงานจาก DeFiLlama ในช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัว Mantle LSP's TVL ได้เกินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีจุดสูงสุดถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคม 2024 และตอนนี้ยังคงรักษา TVL ไว้ที่เกิน 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD อันดับ 4 ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงว่า mETH มีผู้ใช้กระเป๋าสตางค์กว่า 8,000 คนบน Ethereum และ 26,000 คนบนเครือข่าย Mantle โดยมีจำนวนผู้ใช้และกิจกรรมที่น่าประทับใจ

![](https://s3.ap-northeast-1.amazonaws.com/gimg.gateimg.com/learn/3832250a8ed6c86e7d5e94eff908cb880a245dd3.png

แหล่งที่มา: DeFiLlama, 25/10/2024

ผู้ถือ mETH สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม DeFi ที่หลากหลายสําหรับกลุ่มสภาพคล่องการทําฟาร์มผลผลิตและกิจกรรมทางการเงินอื่น ๆ โดยไม่จําเป็นต้องยกเลิก ETH นี่คือตัวอย่าง dApp บางส่วนที่มีให้สําหรับผู้ใช้:

สำหรับการซื้อขาย Bybit จะมีคู่ค้า mETH/USDT และ mETH/ETH ในขณะที่ NativeX จะมีคู่ค้า mETH/WETH และตัวเลือกการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ สำหรับการให้กู้ยืม INIT Capital ให้ผู้ใช้ฝาก/ยืมตำแหน่ง ETH Timeswap ใช้ ETH เป็นหลักประกันและ MYSO Finance นำเสนอการแลกเปลี่ยนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมและการกู้ยืมที่กำหนดเองโดยไม่มีการขาดทุนสำหรับ Likudity Merchant Moe นำเสนอสระว่ายน้ำในรูปแบบต่าง ๆ ในขณะที่ Butter.xyz อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม Likudity ให้กับเหรียญที่ใช้ได้ทุกตัว รวมถึง ETH และ MNT

นี่เน้นความได้เปรียบที่เฉพาะของ mETH: มีระบบนิเวศที่หลากหลายและเจริญรุ่งเรืองของ Mantle เป็นผล mETH ได้รับประโยชน์จากช่วงเวลาที่มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนหลากหลายของสินทรัพย์สร้างรายได้ที่หลากหลายและความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้น วงจรที่ดีและเป็นประโยชน์นี้ยิ่งเพิ่มขึ้นในการเติบโตและความสำเร็จต่อไปของ mETH

2.2.2 cmETH

ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2024 หกเดือนหลังจากการเปิดตัว mETH อย่างเป็นทางการข้อเสนอการกํากับดูแล MIP-30 ได้รับการอนุมัติโดยแนะนํา cmETH เป็นโทเค็นการปักหลักของเหลวใหม่ (LRT) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ mETH เป็นโทเค็นการปักหลักของเหลวที่อนุญาตให้ผู้ใช้เดิมพัน ETH และรับ mETH แต่ cmETH ทําหน้าที่เป็นโทเค็นการปักหลักใหม่เหลวซึ่งผู้ใช้สามารถเดิมพัน mETH และรับ cmETH บนพื้นฐาน 1: 1 \
เช่น mETH ก็เช่นเดียวกับ cmETH ที่สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระบบ Mantle (รวมถึง EigenLayer, Symbiotic, Karak, Zircuit, ฯลฯ) ทำให้ผู้ใช้สามารถสำรวจโอกาสในการได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมในขณะที่ยังคงได้รับคุณสมบัติของ mETH ผ่าน L2 และแอปพลิเคชันและโปรโตคอลที่มีการกระจายอย่างเสรี

ข้อดีสำคัญของ cmETH สำหรับ mETH คือ นอกจากการได้รับรางวัลพื้นฐานจากการถือครองเหรียญ มันยังครอบคลุมโอกาสในการได้รับผลตอบแทนมากขึ้น รวมถึงรางวัลจากโปรแกรมการถือครองเหรียญใหม่ (คาดหวังการแจกแจง), ผลตอบแทน AVS จากการถือครองเหรียญใหม่ และอื่น ๆ

สรุปมากๆ cmETH เป็นตัวเลือกที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง เมื่อเปรียบเทียบกับ mETH ทำให้มันเหมาะมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าภายในขอบเขตความเสี่ยงบางส่วน นอกจากนี้พร้อมกับการเปิดตัว cmETH MIP-30 ยังแสดงภาพตัวอย่างการเปิดตัว $COOK โทเคนการปกครองสำหรับ mETH

เรายังต้องการกล่าวถึงแคมเปญ "Methamorphosis" ของ Mantle ที่เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2024: ในงาน 100 วันนี้ mETH ใช้ข้อดีของระบบนิเวศและประกาศอย่างเป็นทางการถึงหน่วยงาน 23 แห่ง รวมถึงโครงการระดับโลกอย่าง EigenLayer, Symbiotic, Karak, Zircuit, และ Pendle ผู้ใช้สามารถรับรางวัลโดยการถือ mETH และสื่อสารกับหน่วยงานพาร์ทเนอร์ โดย Power tokens สามารถแลก COOK ในอนาคต

แหล่งที่มา: Mantle

แม้ซีซั่นแรกของ Methamorphosis จะสิ้นสุดลงแล้ว ในวันที่ 23 ตุลาคม mETH ประกาศว่าซีซั่นที่ 2 ของ Methamorphosis กำลังจะเปิดตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ระบบนิเวศของ Mantle กำลังจะเติบโตอย่างรุนแรงอีกครั้ง

2.2.3 FBTC

สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้มของ Mantle ไม่ได้ถูก จำกัด ไว้ที่ ETH เท่านั้นในนิเวศน์ของมัน FBTC ซึ่งเปิดตัวร่วมกับ Antalpha แทนสินทรัพย์สำคัญรูปแบบหนึ่ง Bringing BTC เข้าสู่นิเวศน์ Ethereum ได้รับการทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยกับ WBTC แต่เป็นบางครั้งก็เผชิญกับปัญหาเรื่องความไว้วางใจ ในกรณีนี้ FBTC มีทางเลือกที่ดีกว่า

FBTC เป็นสินทรัพย์ Bitcoin ระหว่างช่องทางข้ามลิงค์ที่ผูกเข้ากับ BTC อย่างสมบูรณ์แบบ และให้ความสามารถในการสะสมเงินและซื้อขายข้ามลิงค์บนเครือข่าย Ethereum และ Mantle ทำให้ช่องทางการเข้าถึง Bitcoin และประโยชน์ของ Bitcoin เพิ่มขึ้น ด้วยการนำ FBTC เข้ามา Mantle ไม่เพียงเพิ่มความหลากหลายของสินทรัพย์ความเหลื่อมลิงค์ทางเชื่อมต่อบนเครือข่ายเท่านั้น แต่ยังสร้างตัวเลือกการซื้อขายข้ามลิงค์ใหม่สำหรับผู้ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานโดยรวม

พร้อมกับ mETH และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ FBTC เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าถึงหลากมิติของ Mantle ในการจัดการเงินสดและกลยุทธ์ cross-chain ซึ่งช่วยสร้างระบบนิวัติของ DeFi บนเชน ด้วยความสนับสนุนจากนิวัตินี้ กลยุทธ์สินทรัพย์ multi-chain นี้จะนำ Mantle ให้เป็นผู้แข่งขันที่มีพลังในพื้นที่ความเป็นหลักที่ 2 และความเป็นหลักที่ต่างกัน

2.3 เกม

หัวหน้าแผนกเกมของ Mantle คือ Grant Zhang ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในอุตสาหกรรมเกม เขาเคยเป็นผู้นําทีมปล่อยตัวสําหรับเกมเช่น League of LegendsและGame of Thronesด้วยโครงการที่เขามีส่วนร่วมในการสะสมมากกว่า 500 ล้านดาวน์โหลด

การทฤษฎีของ Mantle ในการเล่นเกมมีลักษณะที่แตกต่างออกไปจากระบบนิเวศอื่นๆ โดยความแตกต่างนี้มาจากทีมงานเองอย่างมาก ในนิเวศอื่น ๆ การพัฒนาส่วนเกมมิ่ง มักเป็นไปโดยนักลงทุนที่มีชื่อเสียง ในขณะที่ทีมเกมมิ่งของ Mantle เป็นทีมที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในการจัดพิมพ์เกมและการดำเนินงาน โครงสร้างนี้ทำให้ Mantle สามารถให้การสนับสนุนที่มีน้ำหนักมากกว่าให้กับพันธมิตรในการเล่นเกม รวมถึงการออกแบบการทำเหรียญ, แบบจำลองเศรษฐศาสตร์, การจัดพิมพ์เกม, การจัดหาเงินทุน และการเข้าถึงผู้ใช้

แม้จะมีคลังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ Web3 แต่ Mantle ยังคงเลือกมากในเกมที่รองรับ ซึ่งแตกต่างจากระบบนิเวศอื่น ๆ ที่อาจพยายามแนะนําเกมหลายร้อยเกมโดยการหล่อตาข่ายกว้าง Mantle ได้เลือกที่จะสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับเกมประมาณ 7-8 เกมเท่านั้นโดยให้การสนับสนุนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้เกมที่เลือกเหล่านี้จึงได้รับเงินทุนและความช่วยเหลือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ที่นี่เราจะแนะนำหนึ่งในโปรเจคเกมมิ่งหลัก:

2.3.1 Catizen

Catizenเป็นเกมมินิที่มีธีมแมว ที่สร้างขึ้นบนโปรแกรมมินิของเทเลแกรม ที่ผู้เล่นสไลด์เพื่อให้อาหารแมวและรับรางวัล ตามทวีตจากปาเวล ดูโรฟ ประธานเจ้าหน้าที่เทเลแกรม ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2024Catizenได้ดึงดูดความสนใจจากผู้เล่นมากกว่า 26 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าทึ่งเมื่อเทียบกับการเปิดตัวเกมเพียง 4 เดือนก่อนในวันที่ 19 มีนาคม 2024

ตัวอย่าง Catizen แหล่งที่มา: Catizen
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 Catizenเป็นพันธมิตร戦略กับ Mantle อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่าง Mantle และ Catizen และสํานักพิมพ์ Pluto Studio มีอายุย้อนไปถึงเดือนสิงหาคม 2023 Mantle ได้ให้การสนับสนุนที่ครอบคลุมในด้านต่างๆรวมถึงการออกแบบเกมเศรษฐศาสตร์โทเค็นการได้มาซึ่งผู้ใช้และแม้แต่ความร่วมมือกับ TON ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้โครงสร้างทีมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mantle ช่วยให้สามารถให้การสนับสนุนอย่างมืออาชีพและใช้งานได้จริงซึ่งสามารถขับเคลื่อนความสําเร็จของโครงการได้อย่างมีนัยสําคัญซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบนิเวศอื่น ๆ อาจไม่สามารถทําได้

สำหรับ Mantle, เกมเช่น Catizenและแตะเพื่อรับรางวัล, ซึ่งมีลักษณะที่ไม่เป็นทางการและเหมาะสำหรับการดึงดูดผู้ใช้ จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เกมเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของเทเลแกรมในการนำผู้ใช้มาใช้เล่นเกมแบบไม่เป็นทางการ แผนการณ์ในอนาคตของ Mantle นั้นรวมถึงการพัฒนาต่อไปพร้อมกับระบบนาฬิกาขนาดเล็กของเทเลแกรม โดยเริ่มต้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมที่เหมาะสมตามขั้นตอนการวิวัฒนาการ

ตอนนี้ที่เขียนอยู่,คาติเซนมีผู้ใช้งานกว่า 600,000 คนบนบล็อกเชน Mantle โทเค็นของเกมคือ CATI มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 76.63 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นสินทรัพย์ระดับต้นๆตามมูลค่าที่สร้างขึ้นบน Mantle

X: @CatizenAI

2.3.2 MetaCene

MetaCene เป็นเกมออนไลน์มัลติเพลเยอร์ขนาดใหญ่ (MMORPG) ที่ผสมผสานองค์ประกอบของ Web3 โดยรวมถึง NFTs, กลไกบล็อกเชน และเทคโนโลยี AI กับคุณสมบัติเกมคลาสสิก เช่น การต่อสู้ PvP และการจัดการที่ดินMetaCene ได้ถูกก่อตั้งโดย Qunzhao (Alan) Tan, นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์

เป็นเกม MMORPG ที่ซับซ้อน,MetaCeneมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นในเชิงราคา กฎเกณฑ์ และการออกแบบโมเดลเศรษฐกิจ แมนเทิล พร้อมทีมงานจาก Game7, Hyperplay, Yeeha, และ Community Gaming สามารถให้การสนับสนุนอย่างเป็นรายละเอียดทั้งในเรื่องการเพิ่มผู้ใช้ การเก็บรักษาผู้ใช้ โครงสร้างพอร์ตวอลเล็ท จุดเข้าถึง และความปลอดภัย ซึ่งนำมาให้บริการ เมตาซีนการสนับสนุนที่จำเป็น

เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ก่อตั้งสมาคมเกมบล็อกเชนชั้นนําหลังจากประสบการณ์อันยาวนานกับ MetaCene, มีคำชมเกี่ยวกับเกมที่ออกแบบลึกซึ้งและมีผู้เล่นระดับนานาชาติที่นำมาพิสูจน์ความสามารถในการเล่นของมันได้อีกขั้น
ณ เวลาที่เขียนเมตาซีนมีผู้ใช้มากกว่า 510,000 คน โดยผู้ใช้ที่ใช้งานประจำวันสูงสุดถึง 360,000 คน

X: @MetaCeneGame

2.3.3 ฟันตันเอไอ

Funton.aiเป็นส่วนเสริมใหม่ในระบบ Mantle ในเดือนตุลาคม 2024 ในฐานะแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มชั้นนำในระบบ TON Funton.aiมุ่งมั่นที่จะสร้างนิเวศ GameFi ที่กระจายอำนาจ โดยรวมศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์และเกม ให้บริการสร้างเกมแบบคลิกเดียว โดยถึงเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2567 มันได้เกินกว่า 350,000 ผู้ใช้ที่ใช้งานรายเดือนแล้ว ความร่วมมือกับ Mantle จะช่วยดึงดูดผู้ใช้ Telegram ล้านคนเข้าสู่นิเวศ MantleFunton.ai สร้างขึ้นอีกด้วย Flappy MNT, เกมที่ผู้ใช้สามารถรับ $MNT และ FUN Points ได้โดยการเชื่อมต่อกระเป๋าสตางค์ที่มี $MNT และเล่นเกม

อย่างสังเกต, Funton.aiเร็ว ๆ นี้ได้ร่วมมือกับหลายองค์กรรวมถึง gate Exchange และ OKX Wallet เพื่อดำเนินการแอร์ดรอปสำหรับ $FUN token เพิ่มความส่งเสริมตลาดและผู้ใช้งานFunton.aiก็ได้เข้าสู่ Web3Labs และ KuCoin Labs’ accelerators โดยได้รับการยอมรับจากสถาบัน Web3 ในวงกว้าง

X: @funton_ai

Mantle มักลงทุนความพยายามอย่างมากเพื่อสนับสนุนนิเวศ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับบล็อกเชนสาธารณะอื่น ๆ ด้านล่างคือกิจกรรมและกิจกรรมสำคัญของนิเวศ

2.4.1 กองทุน EcoFund

Mantle EcoFund เป็นกองทุนระบบนิเวศมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ที่จัดทําโดย Mantle Treasury โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการยอมรับของนักพัฒนาและ dApps บนเครือข่าย Mantle กองทุนจัดลําดับความสําคัญของการลงทุนในทีมที่สร้างโครงการคุณภาพสูงและนวัตกรรมภายในระบบนิเวศของ Mantle และจะเพิ่มเงินทุนสําหรับโครงการที่โดดเด่นที่มีศักยภาพตามความเหมาะสม

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการ กองทุน EcoFund ได้ทำการสนับสนุนโครงการมากกว่า 13 โครงการ รวมถึง INIT Capital, Catizen, และ Merchant Moe ซึ่งทั้งหมดได้เติบโตเป็นผู้มีส่วนร่วมรากฐานภายในระบบ Mantle แล้ว

2.4.2 การให้ทุนแมนเทิล

เพื่อกระตุ้นความมีชีวิตของระบบนิเวศ แมนเทิลได้สร้างโปรแกรมส่งเสริมสองโปรแกรม:

โครงการ Mantle Scouts: เปิดตัวในเดือนเมษายน 2024 โครงการนี้มอบอำนาจให้กับผู้นำอุตสาหกรรม 16 คนในการอนุมัติการใช้ MNT มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการที่มีคุณภาพสูงภายในระบบนี้เพื่อสนับสนุนนวัตกรรม โครงการนี้ให้การสนับสนุนแนะนำ ทรัพยากรเครือข่าย และการสนับสนุนทางการเงินเพื่อเร่งความสำเร็จของโครงการภายในเครือข่าย Mantle

เงินทุนทุนสาธารณะ: แมนเทิลเสนอเงินช่วยเหลือ (สูงถึง $ 20,000 ใน MNT) ให้กับโครงการระยะแรกส่งเสริมชุมชนนักพัฒนาที่มีชีวิตชีวา

2.4.3 เกม 7

เนื่องจากการเล่นเกมเป็นจุดสนใจหลักสําหรับการพัฒนาระบบนิเวศของ Mantle Mantle จึงได้ร่วมมือกับ Game7 เพื่อเปิดตัวโปรแกรมเร่งความเร็วเกม จากโครงสร้างพื้นฐานของ Mantle Network Game7 มอบเครื่องมือที่จําเป็นให้กับนักพัฒนาเกม รวมถึงตลาด NFT การเชื่อมโยงข้ามสายโซ่ และ DAOs ของเกม ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศขับเคลื่อนการพัฒนาโลกของเกมที่ไม่ได้รับอนุญาตและทํางานร่วมกันได้

2.4.4 Sozu Haus

ในเชิงของการนำเสนอผู้พัฒนา, Mantle ได้สนับสนุนและเป็นเจ้าภาพให้กับการแข่งขันแฮ็กกาธอนทั่วโลก 26 รายการ รวมทั้งมีการจัดงานเสวนาเทคนิคและ AMAs ออนไลน์จำนวนมาก มีโครงการมากกว่า 900 โครงการที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันแฮ็กกาธอน นอกจากนี้ Mantle ยังจัดองค์กรพิเศษ 6 Sozu Hausเหตุการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมมินิแอคเซลเลอเรเตอร์และเมเกอร์สเปซของแมนเทิล อีกทั้ง แมนเทิลยังเป็นเจ้าภาพเหตุการณ์สัมมนาโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดผู้ก่อตั้งและนักพัฒนาชั้นนำ

2.4.5 คู่ค้าในระบบนิเวศอื่น ๆ

นอกจากนี้ Mantle ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยที่พันธมิตรเหล่านี้ไม่เพียงแค่สนับสนุนการขยายของระบบ Mantle แต่ยังให้ทรัพยากรมีค่าในด้านการสนับสนุนทางทุน การเคลื่อนย้ายผู้ใช้ ทรัพยากรนักพัฒนา ความเชื่อมั่นในตลาด การรับรองจากอุตสาหกรรม และการศึกษาสำหรับนักพัฒนา

ตัวอย่างเช่น Mirana Ventures ได้ให้การสนับสนุนทุนเงินและทรัพยากรต่อเนื่องสำหรับนิเวศ Mantle นอกจากนี้ Mirana Ventures ยังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสถาบันการลงทุน 100 อันดับแรกในรางวัล RootDada ปี 2023 กองทุนของพวกเขาที่มีมูลค่าการจัดการในระดับหลายล้านดอลลาร์ได้สร้างและฟักฟูโครงการหลายๆ โครงการที่เด่นที่ด้วยการลงทุนรวมถึง TON, Morpho, Zircuit และ Story Protocol นอกจากนี้ Mantle ยังเป็นพาร์ทเนอร์ทางเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงของ Eigenlayer

ในแง่ของชุมชนนักพัฒนา Moledao ยังเป็นผู้สนับสนุนระบบนิเวศของ Mantle อย่างแข็งแกร่ง Moledao มุ่งเน้นไปที่การจับคู่ทรัพยากรและการสนับสนุนสําหรับโครงการและนักพัฒนา Web3 ในระยะเริ่มต้น ผ่านชุดหลักสูตรการศึกษา Web3 แฮกกาธอนและกิจกรรมออฟไลน์อื่น ๆ Moledao ได้ช่วยให้ Mantle เชื่อมต่อและดึงดูดโครงการและนักพัฒนาบล็อกเชนที่ยอดเยี่ยมมากมาย ในฐานะชุมชนนักพัฒนา Moledao ยังคงให้การสนับสนุนด้านนวัตกรรมทางเทคนิคและทรัพยากรความสามารถแก่ Mantle ซึ่งช่วยในการพัฒนาและปรับแต่งระบบนิเวศบล็อกเชนอย่างรวดเร็ว

2.4.6 สิ่งส่งเสริมระบบนิเวศ

คลังของ Mantle (เกือบ 3 พันล้านเหรียญเงิน, อันดับสองของโลก) เป็นแหล่งที่สำคัญของความมั่นใจและความเข้มแข็งของมัน รายได้จากดอกเบี้ย PoS จากคลังเงินถูกส่งตรงกลับไปยังผู้ใช้ เช่น ผ่านราง Eigenlayer ของเงินรางวัล restaking ซึ่งเป็นสิทธิ์แรงจูงใจของระบบนิเวศน์ กลไกของการรางวัลนี้เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในระบบนิเวศน์ ผ่านการปฏิสัมพันธ์ภายในระบบนิเวศน์หรือการมีส่วนร่วม ผู้ใช้ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาของระบบนิเวศน์เท่านั้น แต่ยังแบ่งปันรายได้จากคลังของเงิน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบนิเวศน์มีความเคลื่อนไหวและสามารถเองได้

3. จุดเด่นสำคัญ

ในระยะเวลาที่ผ่านมา Mantle ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในพื้นที่ Layer 2 (L2) ด้วยตัวเลขการเติบโตที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ใช้ในขั้นตอนนี้ ด้วยความรวมร่วมต่อเนื่องของระบบนิเวศและการมาถึงของ cmETH และ COOK จะทำให้การเติบโตของ Mantle ยังคงมีความแข็งแกร่ง ด้วยการเติบโตที่คาดเดาไว้นี้ เรามีการสังเกตสำคัญต่อไปนี้

การรับรองที่แข็งแกร่งจาก Bybit: ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง Mantle และ Bybit โครงการที่โดดเด่นภายในระบบนิเวศของ Mantle จะมีโอกาสได้รับการจดทะเบียนใน Bybit และสัมผัสกับฐานนักลงทุนที่กว้างขึ้นผ่านคําแนะนําของ Bybit สําหรับทีมพัฒนา dApp สิ่งนี้แสดงถึงทรัพยากรและช่องทางการเปิดรับที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ การสนับสนุนจากคลังที่ใหญ่ที่สุด: ด้วยเงินเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ใน Mantle Treasury กองทุนนี้เป็นการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพสําหรับโครงการที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Mantle ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสําหรับการพัฒนาระบบนิเวศ Mantle กําลังสร้างศูนย์แอปพลิเคชันแบบ on-chain ทางการเงินและผู้บริโภคที่คุ้มค่ามากขึ้นซึ่งรายได้ดอกเบี้ยจากคลังสามารถให้เงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้เป็นข้อเสนอแนะ ข้อดีของสถาปัตยกรรมเทคโนโลยี: การออกแบบโมดูลาร์ของ Mantle นําเสนอความสามารถในการปรับขนาดที่สําคัญและข้อได้เปรียบในการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนทําให้เครือข่ายมีความยืดหยุ่นและเปิดรับนวัตกรรมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ LSD Ethereum ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่: ผู้สนับสนุน TVL สี่อันดับแรกของ Mantle ล้วนมาจากพื้นที่ DeFi การบรรลุการรวมสภาพคล่องซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ DeFi เป็นสิ่งสําคัญ แมนเทิลทุ่มเทให้กับการแก้ปัญหาการกระจายตัวของสภาพคล่องและได้ลงทุนอย่างมีนัยสําคัญในโดเมนการปักหลักของเหลว ด้วยการออกแบบพื้นฐานขั้นสูงและการสนับสนุนระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง mETH ได้เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ ระบบนิเวศการเล่นเกมที่เฟื่องฟู: จนถึงปัจจุบันภาคเกมของ Mantle ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงเจ็ดรายการโดยมีโครงการต่างๆเช่น Catizen และ MetaCene เป็นเลิศในช่องของตน แมนเทิลวางแผนที่จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมทั้งหมดในไตรมาสต่อ ๆ ไป เพื่อเร่งการเติบโตของระบบนิเวศต่อไป การสนับสนุนที่ครอบคลุมสําหรับนักพัฒนาและผู้ก่อตั้ง: อุตสาหกรรม Web3 ต้องการกรณีการใช้งานนวัตกรรมและสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น Mantle ได้ดําเนินโครงการจูงใจนักพัฒนาที่หลากหลายเช่น Sozu Haus Hacker House และ EcoFund มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ซึ่งสอดแนมและสนับสนุนความสามารถของนักพัฒนาระดับสูงอย่างแข็งขัน สําหรับนักพัฒนาที่มีความสามารถสร้างสรรค์และหลงใหล Mantle เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสําหรับการเติบโต

ในฐานะที่เป็นโครงการเลเยอร์ 2 ที่คุ้มค่าและรองรับอนาคต Mantle มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นําในการพัฒนาธุรกรรมและแอปพลิเคชันแบบ on-chain ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่เหมาะสําหรับ DeFi และแอปพลิเคชันแบบกระจายอํานาจ เราควรมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของ Mantle ในฐานะโซลูชันเลเยอร์ 2 และเปรียบเทียบภายในพื้นที่บล็อกเชนสาธารณะที่กว้างขึ้น ประสิทธิภาพระบบนิเวศ TVL และตัวชี้วัดอื่น ๆ เหนือกว่าโครงการ Layer 1 ส่วนใหญ่แล้ว ด้วยประวัติการเติบโตสั้น ๆ การสนับสนุนที่แข็งแกร่งของคลังและความมุ่งมั่นในการ "ทําสิ่งที่ถูกต้อง" มีเหตุผลทุกอย่างที่จะคาดหวังว่า Mantle จะนํานวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นมาสู่โลก Web3

บางทีน่าจะเกิดนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดถัดไปบน Mantle อาจเกิดขึ้น

อ้างอิง:

คำเตือน:

  1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [[foresightnews]https://s.foresightnews.pro/article/detail/73050]. ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [ Klein Labs+Web3Labs]. If you have any objection to the reprint, please contact ทีมเรียนรู้ของเกต, ทีมงานจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
  2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้นและไม่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนใด ๆ
  3. ทีมสอนของเกต เป็นผู้แปลบทความเป็นภาษาอื่น การคัดลอก การแจกจ่ายหรือการลอกเลียนแบบบทความที่แปลนั้นถูกห้ามโดยไม่ได้ระบุ

บล็อกเชนชั้นที่ 1 ที่เกิดขึ้น: การศึกษาลึกลงในนิเวศของ Mantle - จากพื้นฐานไปสู่นิเวศ

กลาง12/16/2024, 6:31:21 AM
บทความนี้ให้การวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่เลเยอร์ 2 ของโครงการ Mantle โดยในบทความนี้จะมีการสำรวจเกี่ยวกับโทเค็นออนอมิกส์ของ Mantle, การพัฒนาระบบนิเวศ, สถาปัตยกรรมทางเทคนิค, และผลงานในตลาดโดยเน้นที่ตำแหน่งที่นำด้าน DeFi, GameFi และ liquid staking

1. ภาพรวมของแมนเทิล

1.1 แนะนําโครงการ

ภาพรวม

การแข่งขันบล็อกเชน Layer 1 เสมอมาเป็นสนามรบหลักของ Web3 ตั้งแต่ Ethereum เริ่มต้นจำนวนมากของผู้แข่งขันได้เกิดขึ้น การสร้างต่อ Ethereum การแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงเป็นการต่อสู้ของเรื่องราว Layer 2 scaling solutions ที่กำลังเข้ามา ซึ่งนำเสนอยุคที่สิบ L2 solutions แข่งขันเพื่อความเป็นผู้นำ ขณะที่แผนที่นี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังเป็นที่ชัดเจนว่านวัตกรรมทางเทคนิคและประสิทธิภาพสูงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เครือข่ายบล็อกเชนคล้ายกับอาณาจักรดิจิตอล - ต้องมีระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและความเห็นสองข้างที่แขกนักพัฒนาและผู้ใช้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีรายได้ที่มั่นคง

ในสนามแข่งขันที่แข็งแกร่งนี้ Mantle ได้เป็นม้ามืดที่เก่งกว่า ตั้งแต่เปิดตัวเมนเน็ตหลักของมันในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 เค้าได้รวดเร็วขึ้นเป็นเครือข่ายเลเยอร์ 2 อันดับ 4 โดยมีการล็อกค่าเฉลี่ย (TVL) เพียงเพียงประมาณหนึ่งปีเท่านั้น ด้วยกองทัพขนาด 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Mantle ได้รับการยืนยันตนเองว่าเป็นตัวเลือก L2 ชั้นนำและพร้อมที่จะเข้าร่วมกลุ่มชั้นนำของบล็อกเชนชั้นนำ

แต่แมนเทิลประสบความสําเร็จในการเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งได้อย่างไรและอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร? บทความนี้จะให้การสํารวจเชิงลึกของคําถามเหล่านี้

ตอบเรื่องสำคัญ

1.2 โทเค็นออนอมิกส์

โทเค็น $MNT ทําหน้าที่เป็นทั้งโทเค็นการกํากับดูแลและยูทิลิตี้ภายในระบบนิเวศของ Mantle โดยมีอุปทานทั้งหมด 6.219 พันล้านโทเค็น ในฐานะที่เป็นโทเค็นการกํากับดูแล $ MNT ให้สิทธิ์ในการลงคะแนนในกระบวนการตัดสินใจของ Mantle ในฐานะที่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้มันถูกใช้เพื่อชําระค่าธรรมเนียมก๊าซบนเครือข่าย Mantle และทําหน้าที่เป็นสินทรัพย์รางวัลหลัก

การออกแบบสองวัตถุประสงค์นี้ทําให้ Mantle แตกต่างจากเครือข่าย L2 อื่น ๆ เนื่องจากการใช้ $ MNT สําหรับค่าธรรมเนียมก๊าซสร้างแรงกดดันต่อมูลค่าของมัน

ตามภาพรวมอย่างเป็นทางการของ Mantle จากสแนปช็อตในวันที่ 7 กรกฎาคม 2023 การกระจายครั้งแรกของ $MNT มีดังนี้:

ที่มา: Mantle

แผนภูมิการแจกจ่ายเผยให้เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของโทเค็น $MNT ถูกถือครองโดย Mantle Treasury ทําให้พวกเขา "ไม่หมุนเวียน" การจัดสรรโทเค็นเหล่านี้อยู่ภายใต้กระบวนการกํากับดูแลของ Mantle โดยมีงบประมาณการระดมทุนและการกระจายตามแนวทางขั้นตอนที่เข้มงวด หลังจากการจัดสรรครั้งแรกโทเค็น $ MNT ของ Mantle Treasury จะถูกเติมเต็มผ่านการบริจาคของบุคคลที่สามและรายได้ค่าธรรมเนียมก๊าซจากเมนเน็ตแมนเทิล

งบประมาณหลักของ Mantle ได้รับการจัดสรรเป็นหลักใน $ MNT สําหรับค่าใช้จ่ายและรางวัลต่อไปนี้: แรงงานค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหารการตลาดระบบนิเวศและโปรแกรมสร้างรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัย

ใน MIP-31 ที่เพิ่งผ่านไปในเดือนกันยายน 2024 Mantle ได้ร่างแผนงบประมาณใหม่สําหรับรอบงบประมาณที่สอง (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025) โดยมีการจัดสรรที่สําคัญโดยตรง: การวิจัยและพัฒนาและการเติบโต (15 ล้าน$USDx และ 20 ล้านดอลลาร์ MNT) และการตลาด (12 ล้าน$USDx และ 20 ล้านดอลลาร์ MNT) แมนเทิลได้ร่วมมือกับหน่วยงานการตลาดและหน่วยงานวิจัยต่างๆ รวมถึงสื่อที่มีชื่อเสียงและองค์กรวิจัย เช่น Bankless, Unchained Podcast, Delphi Digital และ Messari รวมถึงผู้นําทางความคิดที่มีอิทธิพล ซึ่งทั้งหมดได้รายงานเกี่ยวกับ Mantle

รายละเอียดงบประมาณของ Mantle; ที่มา: Mantle

ภาพรวมของข้อมูลสำคัญ 1.3

Project Metrics

มาสํารวจการเติบโตของ Mantle ในปีที่ผ่านมาโดยใช้จุดข้อมูลเปรียบเทียบที่หลากหลาย Mantle เปิดตัว mainnet เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2023 หลังจากช่วงที่มีเสถียรภาพโครงการมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในต้นปี 2024

ณ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มูลค่ารวมของ Mantle Locked (TVL) อยู่ที่เพียง 400 ล้านดอลลาร์ ในอีกสี่เดือนข้างหน้า พุ่งขึ้นมากกว่า 300% แตะระดับสูงสุดเกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์ภายในเดือนเมษายน ในขณะที่เขียน TVL แบบออนเชนล่าสุดของ Mantle อยู่ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์ซึ่งอยู่ในอันดับที่สี่ในบรรดาเครือข่าย Layer 2 ในฐานะที่เป็นตัวบ่งชี้สําคัญของการพัฒนา L2 TVL สะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ความเชื่อมั่นของตลาดและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ การเติบโตของ TVL อย่างรวดเร็วมักแสดงถึงความไว้วางใจและการยอมรับของผู้ใช้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Mantle ในการจัดหาสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง

ข้อมูล Mantle TVL; แหล่งที่มา: l2beat, 2024/10/31

ในเชิงของ in-dApp TVL แดชบอร์ด DeFiLlama นั้นมีการแสดงผลที่ชัดเจนของการสร้างสรรค์ระบบนิเวศของ Mantle โดยที่ผู้มีส่วนร่วมหลัก ประกอบด้วย DeFi sectors เช่น DEXs, lending และ restaking การเติบโตอย่างรวดเร็วของ DEX-related TVL ยืนยัน DeFi เป็นศูนย์กลางสำหรับ Mantle

Mantle Ecosystem TVL; แหล่งที่มา: DeFiLlama, 2024/10/24

หลังจากตรวจสอบพื้นฐาน TVL แล้ว เรามาดูกิจกรรมบนลูกโซ่ของ Mantle กันดีกว่า เมื่อโซลูชัน L2 เกิดขึ้นมากขึ้นก็เหมือนกับการสร้างทางหลวงที่ใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก แต่มีรถยนต์เพียงไม่กี่คันบนท้องถนนเนื่องจากขาดความต้องการนี่เป็นปัญหาทั่วไปที่โครงการ L2 ส่วนใหญ่ต้องเผชิญ: การไม่มีแอปพลิเคชันคุณภาพสูง ดังนั้นการวัดความเจริญรุ่งเรืองของ L2 ผ่านหมายเลขผู้ใช้ปริมาณธุรกรรมและเมตริกอื่น ๆ จึงมีความหมายมากขึ้น สิ่งที่เราได้เห็นในข้อมูลการเติบโตของ Mantle สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่น่าประทับใจ

ในแง่ของผู้ใช้ทั้งหมด Mantle มีผู้ใช้ประมาณ 330,000 คนในเดือนธันวาคม 2023 และภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2024 จํานวนผู้ใช้ทั้งหมดทะลุ 4.42 ล้านคนซึ่งเพิ่มขึ้น 13 เท่าในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ใช้จํานวนมากขึ้นกําลังเข้าสู่ระบบนิเวศของ Mantle

ข้อมูลผู้ใช้ Mantle; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

ผู้ใช้งานรายวัน (DAU): Mantle มีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปลายเดือนเมษายน 2024 โดยยังคงรักษาค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้นหลังจากนั้น ปัจจุบันผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ประมาณ 40,000 คนซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับระดับเดือนกันยายน 2023

ข้อมูล DAU ของ Mantle; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

ปริมาณธุรกรรม: โดยถึงวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ปริมาณธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่ายของ Mantle เกิน 150 ล้านรายการ โดยมีจำนวนสูงสุดในแต่ละวันเกิน 2.2 ล้านรายการ ระดับนี้ของกิจกรรมสะท้อนถึงความร่วมมือของเครือข่ายที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมบนเครือข่ายทำให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเครือข่ายสูงขึ้น ซึ่งแสดงถึงการทำให้เครือข่ายเป็นอย่างยิ่งเอง

ข้อมูลธุรกรรมเสื้อคลุม; แหล่งที่มา: Dune, 24/10/2024

เมตริกสื่อสังคมออนไลน์

จนถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2024 Mantle ได้สะสมผู้ติดตามมากกว่า 800,000 คนบน X (ก่อนหน้านี้คือ Twitter) ชุมชนของ Mantle ใน Telegram และ Discord กิจกรรมต่อเนื่องอย่างมาก มีสมาชิกเข้าร่วมในการสนทนา AMA และการอัปเดตโครงการมากกว่า 200,000 คน ที่สำคัญ Mantle Discord community มียอดสมาชิกเกือบ 440,000 คน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน ทำให้เป็นหนึ่งในช่องทางการจัดการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

นอกเหนือจากการอัปเดตและการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดียบ่อยครั้งแล้ว Mantle ยังโฮสต์ AMA มากกว่า 120 รายการผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการและระบบนิเวศ เซสชันเหล่านี้นําโดย KOL และสมาชิกในทีมโครงการรวมถึงความคิดริเริ่มเช่น Mantle Ecowaves และ Mantle Showcase วิทยุ, ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเข้าร่วมของผู้ใช้และการใช้งาน

การเข้าร่วมของมันเทิลมีความเคลื่อนไหวทั่วโลกและครอบคลุมการจัดงานแบบสดในที่ต่าง ๆ มากกว่า 50 ครั้งจนถึงปัจจุบัน

1.4 หลักการสถาปัตยกรรมทางเทคนิค

Layer 2 (L2) rollups โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นสองหมวดหมู่: Optimistic Rollups (OP Rollups) และ Zero-Knowledge Rollups (ZK Rollups) Mantle Network ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี OP Rollup สำหรับการขยายขนาด L2 ของมันในขณะที่พัฒนาชั้นการให้ข้อมูลที่สามารถใช้ได้แบบโมดูลอิสระ (DA)

ออกแบบแบบโมดูลเล็กลงเพื่อลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

เมื่อพูดถึงบล็อกเชนแบบโมดูลาร์ สิ่งที่สำคัญคือเข้าใจแนวคิดของบล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกก่อน โดยในที่นี้จะใช้ Ethereum เป็นตัวอย่าง บล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกที่เป็นแบบเต็มวัยจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ชั้นหลัก ได้แก่ Execution Layer, Settlement Layer, Data Availability (DA) Layer, และ Consensus Layer แต่ละชั้นจะมีฟังก์ชันและบทบาทที่ไม่เหมือนกัน อย่างง่ายๆ การออกแบบโมดูลาร์ของ Mantle จะกระจายฟังก์ชันสี่อย่างนี้ไปยังชั้นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่การจัดการทั้งหมดในชั้นเครือข่ายเดียวเหมือนบล็อกเชนแบบมอนโอลิธิกที่ส่วนใหญ่ ฟังก์ชันสี่อย่างนี้คือ

  • การดําเนินการธุรกรรม: สิ่งนี้เกิดขึ้นกับความเข้ากันได้กับ EVM ของ Mantle
  • ชั้นการดําเนินการและการตั้งถิ่นฐาน ซีเควนเซอร์ของ Mantle สร้างบล็อกบน L2 Execution Layer และส่งข้อมูลรูทของรัฐไปยังบล็อกเชนหลัก
  • การตกลงและการตกลงค่าเงิน: การดำเนินการโดยเครือข่าย Ethereum L1
  • ความพร้อมในการให้ข้อมูล: ชั้นความพร้อมในการให้ข้อมูลถูกพัฒนาอิสระโดยใช้ Eigen DA เพื่อให้ Mantle ส่งเฉพาะรากสถานะที่จำเป็นไปยัง Ethereum mainnet เพื่อเก็บข้อมูลการเรียก callback ที่มักจะถูกส่งออกไปยัง L1
  • การดึงข้อมูล: โหนดอื่น ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกรรมจากเลเยอร์ DA ของ Mantle ผ่านบริการ DTL ซึ่งข้อมูลได้รับการตรวจสอบและยืนยัน

ในโครงสร้าง OP Rollup แบบดั้งเดิม ค่าใช้จ่ายที่สูงของ calldata จะเกิดขึ้นเมื่อส่งข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดไปยังชั้น DA ของ Ethereum ของเลเยอร์ ซึ่งเมื่อปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจมีส่วนแสดงถึงรายจ่ายทั้งหมด 80–95% ซึ่งจำกัดความมีประสิทธิภาพในเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างรุนแรง ชั้น DA ของ Mantle Network ที่มีโมดูลลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวและความง่ายในการรวมเทคโนโลยีใหม่

ตัวจัดลำดับที่ไม่มีความเฉพาะทางทำให้ความเสี่ยงที่เกิดจากการกลายเป็นส่วนกลางหายไป

ซีเควนเซอร์มีบทบาทสําคัญในโซลูชัน L2 โดยการรวบรวมและสั่งซื้อธุรกรรมการคํานวณสถานะและการผลิตบล็อก พวกเขามีความสําคัญต่อความปลอดภัยของเครือข่าย อย่างไรก็ตามโซลูชันการยกเลิกแบบดั้งเดิมมักอาศัยโหนดซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์เดียวซึ่งมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวการจัดการหรือการเซ็นเซอร์ แมนเทิลแทนที่ซีเควนเซอร์แบบรวมศูนย์ด้วยคลัสเตอร์ซีเควนเซอร์แบบกระจายอํานาจที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งให้ข้อดีที่สําคัญหลายประการ:

ช่วยเพิ่มความพร้อมใช้งานของเครือข่ายขจัดความเสี่ยงของความล้มเหลวจุดเดียวและสร้างความมั่นใจในการทํางานอย่างต่อเนื่องของเครือข่าย ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของฉันทามติของเครือข่ายป้องกันการจัดการหรือการเซ็นเซอร์โดยซีเควนเซอร์และสร้างความมั่นใจในความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการทําธุรกรรม มันช่วยเพิ่มความเข้ากันได้ของแรงจูงใจของเครือข่ายขับเคลื่อนพฤติกรรมที่สอดคล้องกับซีเควนเซอร์ผ่านกลไกการให้รางวัลและสร้างความมั่นใจในความยั่งยืนในระยะยาวของเครือข่าย ในทางตรงกันข้ามซีเควนเซอร์ส่วนกลางต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสินค้าสาธารณะ

1.5 ภูมิทัศน์การแข่งขัน

คอนเจสชันบนเอเธอเรียมาสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับเรื่องราวสำคัญของบล็อกเชน ในบทความของเขา"ทรานส์ชันสาม"วิทาลิก บุเทริน ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่สำคัญสามอย่างที่เอเธอเรียมต้องผ่าน

  1. การเปลี่ยนไปใช้สเกลชั้นที่ 2 โดยที่ทุกคนนำ rollups มาใช้
  2. เปลี่ยนไปใช้ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินด้วยการนํากระเป๋าเงินอัจฉริยะมาใช้อย่างกว้างขวาง
  3. เปลี่ยนไปใช้ความเป็นส่วนตัวทําให้สามารถโอนเงินแบบส่วนตัวและปลอดภัยได้

บุทเทอรินเน้นว่าโดยไม่มีความก้าวหน้าของ Layer 2 Ethereum อาจเสี่ยงต่อการล้มเหลวเนื่องจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงเกินไป

ในที่นี้ พื้นหลังที่เป็นแบบนั้น พื้นที่เลเยอร์ 2 (L2) กำลังเป็นที่นิยมอย่างระเบิด ตาม L2Beat จำนวนรวมของ L2 หรือ L3 ที่กำลังใช้งานอยู่ ณ ปัจจุบันมี 110 ระบบในตลาด แต่เพียงไม่กี่ระบบที่ได้รับการยอมรับที่ระดับใหญ่ ซึ่งทำให้มีการล็อคค่าเงินรวม (TVL) และกลุ่มผู้ใช้ที่สำคัญ ตามล่าสุด ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 มูลค่า TVL รวมของ L2 ได้มาถึง 37.62 พันล้านเหรียญ, เติบไป 3 เท่าในช่วงปีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความต้องการที่แข็งแรง

ที่มา: l2beat, 2024/10/25

เทียบ Mantle กับ Leading L2 Solutions

จากมุมมอง TVL เซียน 3 อันดับแรกของโซลูชัน L2 - Arbitrum, Base และ Optimism - ครอบครองตลาดร่วมกันมากกว่า 73% ของส่วนแบ่งตลาด ม็อคกับ Mantle, ผู้เข้าร่วมใหม่ที่สุด, ได้เติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นชั้นที่ 2 ที่ใหญ่ที่สุดในเพียงหนึ่งปีหลังจากเปิดให้บริการ

การจัดอันดับ TVL L2(แหล่งที่มา: L2Beat, 31 ตุลาคม พ.ศ. 2024)

จากมุมมองของ Fully Diluted Valuation (FDV) แมนเทิลติดอันดับสามด้วย FDV ที่ 3.58 พันล้านเหรียญเปโซ เลื่อนอันดับเพียง Optimism และ Arbitrum เท่านั้น จากมุมมองของอัตราส่วน MC/FDV แมนเทิลเป็นอันดับหนึ่งที่ 54.1% แสดงให้เห็นถึงความกดดันการขาย MNT ในอนาคตที่สูง

แหล่งที่มา: CoinMarketCap, 26 ตุลาคม 2024 (รวบรวมโดย Klein Labs)

ในแง่ของรายได้และความสามารถในการทํากําไร Base แซงหน้า Arbitrum ในเดือนมีนาคมปีนี้เพื่อเป็น L2 ที่ทํากําไรได้มากที่สุด แมนเทิลครองตําแหน่งท็อปไฟว์อย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Dune, 26 ตุลาคม 2024

Mantle vs. บล็อกเชนที่รองรับจากเกต

ผู้สนับสนุนในช่วงต้นของ Mantle ได้แก่ Bybit ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสามทําให้ได้เปรียบอย่างชัดเจน ในส่วนนี้เราเปรียบเทียบ Mantle กับโซลูชันเลเยอร์ 2 อื่น ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยน

เมื่อพูดถึงบล็อกเชนที่รองรับการแลกเปลี่ยนตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่ BNB Chain และ opBNB ของ Binance, ฐานของ Coinbase และ X Layer ของ OKX ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม Kraken ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวเครือข่าย L2 ของตัวเอง หมึกมีกําหนดวางจําหน่ายเมนเน็ตในต้นปี 2025

ก่อนที่จะลงตัวลงไปในรายละเอียดของ L2 solutions เหล่านี้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจเกี่ยวกับอีกฝั่งของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ ตามลำดับของการจัดอันดับของ CoinMarketCap Binance, Coinbase และ Bybit เป็นแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามแห่ง โดย OKX และ Kraken รองลงมาอันดับที่ 4 และอันดับที่ 6 ตามลำดับ นี้หมายความว่า ห้าจากหกแห่งแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอันดับต้น ๆ ได้รับการสนับสนุนอย่างน้อยหนึ่งบล็อกเชน การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางกลยุทธ์สำหรับการแลกเปลี่ยน

การย้ายการแลกเปลี่ยนไปยังพื้นที่บล็อกเชนไม่เพียง แต่เป็นการขยายขอบเขตบริการแต่ยังเป็นการสํารวจการเปลี่ยนจาก "off-chain" เป็น "on-chain" แนวโน้มนี้จะแนะนําผู้ใช้และสินทรัพย์ขนาดใหญ่ให้ค่อยๆย้ายจากการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEX) ไปยังแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอํานาจ (DeFi) ขับเคลื่อนระบบนิเวศการซื้อขายไปสู่การกระจายอํานาจ ทั้งบล็อกเชนสาธารณะและการแลกเปลี่ยนมีความคล้ายคลึงกันพื้นฐาน: ทั้งคู่ต้องการสินทรัพย์ใหม่ที่จะออกและซื้อขายกับพวกเขาซึ่งจะสร้างรายได้ ประสบการณ์อันยาวนานของการแลกเปลี่ยนในการดําเนินงานสินทรัพย์และทรัพยากรอุตสาหกรรมคุณภาพสูงยังเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สําคัญสําหรับบล็อกเชนสาธารณะดังกล่าว

1.5.2.1 โซ่ BNB

BNB Chain (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Binance Chain) ได้เริ่มใช้งานในปี 2019 แสดงถึงการย้ายโทเคน BNB ที่เป็นโทเคนจาก Ethereum ที่เริ่มใช้งานในปี 2017 จากเครือข่าย Ethereum มายัง BNB Chain ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อจาก Binance Smart Chain (BSC) ผมเชื่อว่า BNB Chain เป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 แต่ยังคงมีการสนับสนุนอย่างแข็งขันจาก Binance ด้วย

ปัจจุบัน BNB Chain มี TVL 4.7 พันล้านดอลลาร์ ใช้ประโยชน์จากพื้นฐานการแลกเปลี่ยนและการสนับสนุนทางการเงินของ Binance BNB Chain ประสบความสําเร็จในการสร้าง DeFi เป็นหนึ่งในจุดแข็งหลักโดย PancakeSwap เป็นโครงการที่โดดเด่นที่สุด

ในขณะที่แหล่งเงินทุนและทรัพยากรทางเทคนิคของ Binance นั้นเป็นข้อได้เปรียบที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแลกเชนนี้กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับความกระจายอำนาจ ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์การแฮ็กในปี 2022 บน BNB Chain Binance ขอให้ผู้ตรวจสอบทั้งหมดระงับการทำธุรกรรมเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว การตอบสนองที่เป็นศูนย์กลางนี้เน้นให้เห็นถึงจำนวนผู้ตรวจสอบบนเชนที่จำกัดในเวลานั้นและระบุให้เห็นว่าโหนดส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดย Binance โดยตรงหรือโดยอ้อม

ความท้าทายที่สําคัญสําหรับบล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยนเช่น BNB Chain อยู่ที่การสร้างสมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรการแลกเปลี่ยนในขณะที่บรรลุการกํากับดูแลแบบ on-chain ที่เป็นอิสระอย่างต่อเนื่องและรวบรวมจริยธรรมแบบกระจายอํานาจของ Web3

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 BNB Chain ยังเปิดตัวopBNB, แนวทางความสามารถในการขยายขอบเขตชั้นที่สองที่เข้ากันได้กับ EVM ที่พื้นฐานบน OP Stack ตามที่ DeFiLlama รายงาน opBNB ปัจจุบันมี TVL อยู่ที่ 21.6 ล้านดอลลาร์และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา

1.5.2.2 ฐาน

Base เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 2 บน Ethereum ที่บ่มเพาะโดย Coinbase เนื่องจาก Coinbase ถูกควบคุมโดย SEC Base จึงไม่สามารถออกโทเค็นของตัวเองได้ทําให้ไม่มีสิ่งจูงใจที่ใช้ tokenomics ตามธรรมชาติที่ L2 อื่น ๆ ได้รับ

แม้จะมีข้อ จํากัด นี้ Base ประสบความสําเร็จอย่างน่าทึ่งภายในหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว TVL ประสบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วสองครั้งในเดือนเมษายนและกันยายนปีนี้ซึ่งตอนนี้เกิน 2.4 พันล้านดอลลาร์ ฐานยังกลายเป็นแพลตฟอร์มสําหรับนวัตกรรมโดยมีโครงการที่โดดเด่นเช่น Friend.tech.

โครงการที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในการคำนวณ TVL ของ Base อยู่ทั้งหมด 5 โครงการจาก DeFi sector โดยโดดเด่นอยู่ที่ Aerodrome Finance อันได้รับอันดับหนึ่ง มีส่วนร่วมอย่างเกือบ 54% ของ TVL ของ Base กับจำนวน 1.3 พันล้านดอลลาร์ Aerodrome เป็น DEX ที่ใช้ AMM เปิดตัวบน Base เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2023

1.5.2.3 โครนอส zkEVM

Cronos ถูกเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2021 เป็นบล็อกเชนชั้นที่ 1 ที่เข้ากันได้กับ Ethereum โดย Crypto.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลอันดับ 13 ตัวอักษร อย่างไรก็ตามตั้งแต่การเปิดตัวในฐานะนั้น มูลค่ารวมของ Cronos (TVL) ก็ยังไม่สามารถเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ภายหลังจากนั้น Cronos Labs ทีมพัฒนา Cronos ได้ร่วมมือกับ Matter Labs เพื่อเปิดตัว Cronos zkEVM ซึ่งเป็นเครือข่ายชั้นที่ 2 ที่ใช้เทคโนโลยี zk และได้เปิดให้บริการบน mainnet เมื่อเดือนสิงหาคมของปีนี้

ปัจจุบัน TVL ของ Cronos zkEVM อยู่ที่ประมาณ 17 ล้านดอลลาร์ซึ่งบ่งชี้ว่ายังค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับเครือข่ายชั้นนํา

1.5.2.4 X เลเยอร์

X Layer เป็นบล็อกเชน Layer 2 ที่ใช้ zk rollup ซึ่งเปิดตัวร่วมกันโดย OKX และ Polygon Labs ในเดือนเมษายนปีนี้ X Layer ใช้ OKB เป็นโทเค็นดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้เพื่อชําระค่าธรรมเนียมก๊าซได้ แผนในอนาคตสําหรับ X Layer รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคเพิ่มเติมและการปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาด เช่น การกระจายอํานาจซีเควนเซอร์ ปัจจุบัน X Layer มี TVL 9.3 ล้านเหรียญ

ในเชิงกลยุทธ์ TVL บล็อกเชน Base นั้นค่อนข้างอยู่ได้ไกลขึ้น ตามด้วย Mantle อยู่ในอันดับที่สอง ส่วน Cronos zkEVM และ X Layer ยังเล็กกว่าเทียบกับคู่แข่งของพวกเขา

แหล่งที่มา: DeFiLlama, 26/10/2024

1.6 การประเมินมูลค่าเบื้องต้น

โดยการเปรียบเทียบแนวนอนกับเครือข่ายชั้นที่ 2 อื่น ๆ เราสามารถประเมินความมั่นคงของระบบนิเวศและการประเมินมูลค่าได้อย่างสมเหตุสมผลซึ่งช่วยให้ประเมินศักยภาพในการพัฒนาของเครือข่ายชั้นที่ 2 ได้ดีขึ้น

ก่อนจะเปรียบเทียบ สิ่งสำคัญที่จะต้องระบุไว้คือ ในทางปฏิบัติ MNT ถูกใช้เป็นตัวแทนในการจ่ายค่า gas บนเครือข่าย Mantle แต่กับเครือข่าย Layer 2 อื่นๆ ที่ใช้ ETH เป็นตัวแทนในการจ่ายค่า gas ซึ่งควรพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่าย Layer 2 อื่นๆ เราได้คำนวณค่าที่สำคัญต่อไปนี้:

การเปรียบเทียบข้อมูล, ที่มา: Dune, DeFiLlama, Klein Labs, 2024/10/26

ดังที่เห็นเมื่อเทียบกับเครือข่ายเลเยอร์ 2 ที่ใช้ OP Rollup อื่น ๆ ระบบนิเวศของ Mantle ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม มากกว่า 50% ของโทเค็น MNT ดั้งเดิมมีการหมุนเวียนอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในการขายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อเทียบกับบล็อกเชนอื่นๆ นอกจากนี้ Mantle ยังประสบความสําเร็จอย่างน่าประทับใจใน TVL รายได้แบบ on-chain และเมตริกข้อมูลหลักอื่น ๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น เราเชื่อว่าในขณะที่ระบบนิเวศของ Mantle ยังคงเติบโตและเติบโตตําแหน่งการแข่งขันในพื้นที่เลเยอร์ 2 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. ระบบนิเวศแมนเทิล

ตามที่ Vitalik Buterin ได้กล่าวไว้ ระบบนิเวศของ public chain เป็นคุณสมบัติที่ทำให้มันมีความสามารถในการสู้ชีวิต นิเวศที่หลากหลายและคล้ายคลึงกันไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ใช้ใหม่มากขึ้น แต่ยังกระตุ้นผู้ใช้ปัจจุบันให้มีการมีส่วนร่วมในนิเวศอย่างหลากหลายและบ่อยครั้งขึ้น จากมุมมองนี้ การเติบโตของ Mantle ได้รับการสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญจากนิเวศที่กำลังขยายอย่างก้าวกระโดด โดยมีรอบการตลาดเป็นตัวสนับสนุนที่เชิงบวก

จากข้อมูลล่าสุดระบบนิเวศของ Mantle ตอนนี้โฮสต์มากกว่า 240 dApps รวมถึงโครงการ DeFi 89 โครงการโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 96 โครงการและโครงการ GameFi 20 โครงการ DeFi และโครงสร้างพื้นฐานครอบงํา สะท้อนให้เห็นถึงความสําคัญและความเจริญรุ่งเรืองของ DeFi ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของห่วงโซ่สาธารณะของ Mantle

ที่มา: Mantle, 2024/10/24 \
ต่อไปเราจะวิเคราะห์โครงการสำคัญบางรายในหมวดหมู่ใหญ่เหล่านี้:

2.1 บล็อกเชน DeFi

DeFi ทําหน้าที่เป็นรากฐานสําหรับห่วงโซ่สาธารณะใด ๆ และความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐาน DeFi ส่งผลกระทบต่อศักยภาพและเพดานโดยรวมของระบบนิเวศอย่างมีนัยสําคัญ Mantle มีโครงการ DeFi 36 โครงการในระบบนิเวศรวมถึง DEX การให้กู้ยืมและโปรโตคอลการปักหลักใหม่ ด้านล่างนี้คือโครงการบางส่วนในพื้นที่นี้:

2.1.1 อัคนีไฟแนนซ์

ภาพรวมของโครงการ: Agni Finance, ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 เป็น DEX แบบ AMM ของ Mantle ซึ่งเป็น DEX แบบ AMM ของ Mantle โดยเฉพาะ ที่ถือครอง TVL สูงสุดบน Mantle ($121 ล้าน) พร้อมมีปริมาณซื้อขายรวม $3.92 พันล้าน Agni เสนอ 6 สกุลเงินและ 20 คู่การซื้อขาย โดยคู่การซื้อขายที่เป็นที่สุดคึกคักคู่ METH/WETH ตามข้อมูลล่าสุดจาก CoinGecko ปริมาณการซื้อขายระหว่าง 24 ชั่วโมงของ Agni คือ $4.36 ล้าน

หลังจากประสบการณ์การเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน TVL ในเดือนกรกฎาคม 2023 Agni's TVL ถูกทำให้เสถียรที่มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แทนการเติบโต 2 เท่าจากไตรมาสที่ 2
X: @Agnidex

2.1.2 ทุน INIT

ภาพรวมของโครงการ: INIT Capital ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2023 เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ dApp และปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ มุ่งเน้นให้การเข้าถึงพูลสารสนเทศและการจัดการผลตอบแทนที่เชื่อมโยงทั้งหมดได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพ เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับความเคลื่อนไหวของเงินทุนดีไซด์เฟี้ย ในปัจจุบัน INIT รองรับกิจกรรมต่างๆ เช่นการให้กู้ยืมและกลยุทธ์ผลตอบแทนที่มีประสิทธิภาพ INIT ยังมีกิจกรรมใน Mantle และ Blast networks ในข้อมูลล่าสุด INIT Capital มีขนาดตลาดที่ 110 ล้านเหรียญ โดยมียอดกู้ยืมมากกว่า 24 ล้านเหรียญ

INIT Capital เสร็จสิ้นรอบเมล็ดพันธุ์มูลค่า 3.1 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยมี Electric Capital และ Mirana Ventures เป็นผู้นําการลงทุน

X: @InitCapital_

2.1.3 พ่อค้าโม

ภาพรวมโปรเจกต์: Merchant Moe ที่เริ่มต้นในปี 2024 เป็น DEX ภายใต้ Trader Joe ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับระบบนิทรรศการและชุมชน Mantle โดยเปิดตัวบน mainnet เมื่อมกราคม 2024 พร้อมกับ $MOE token ที่เปิดให้ใช้งาน Merchant Moe ในปัจจุบันเสนอ 14 สกุลเงินและ 22 คู่การซื้อขาย โดยคู่ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ METH/USDT

ตาม MIP-28 พ่อค้าโมจะได้รับการสนับสนุนในการเพิ่มความเป็นสากลจาก Mantle Treasury นอกจากนี้ พ่อค้าโมได้รับการสนับสนุนทุนเมล็ดพันธุ์จาก Mantle EcoFund

X: @MerchantMoe_xyz

2.1.4 Ondo Finance

ภาพรวมของโครงการ: Ondo Finance เป็นโปรโตคอลทางการเงินที่เน้นการติดตามสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWA) ธุรกิจหลักคือโทเค็นสินทรัพย์คุณภาพสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และกองทุนรวมตลาดเงิน ภายในกรอบที่สอดคล้องสําหรับการลงทุนและการซื้อขายที่ใช้บล็อกเชน เส้นทางพันธบัตร RWA U.S. ที่ Ondo ดําเนินการอยู่มี TVL เพิ่มขึ้นหกเท่าในปีที่ผ่านมาทําให้เป็นแรงผลักดันที่สําคัญในภาค RWA ตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 TVL ของ Ondo Finance เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่สามในพื้นที่ RWA มีข้อได้เปรียบในการเสนอญัตติแรกและคาดว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต Ondo Finance รองรับ 8 เชน โดย Mantle TVL อยู่ในอันดับที่สาม แซงหน้า Aptos, Arbitrum และ Sui

X: @OndoFinance

2.2 สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้ม

ในทางเทคนิค, สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้มเป็นสิ่งที่อยู่ในหมวดหมู่ DeFi แต่เนื่องจากความสำเร็จที่สำคัญที่ Mantle ได้ทำในพื้นที่นี้พร้อมกับการให้ความสำคัญต่อและการพัฒนาล่าสุด เราจะวิเคราะห์ส่วนนี้โดยแยกออก

ในวันที่ 23 ตุลาคม Bybit ได้เปิดตัว cmETH และประกาศแผนที่จะนำเสนอโทเค็นการบริหารงานของ mETH ที่ชื่อ COOK ซึ่งได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะลงตัวใน cmETH และ COOK จึงสำคัญที่จะเข้าใจก่อนว่า mETH คืออะไร

2.2.1 mETH

mETH เป็นโปรโตคอลการถือครองแบบไม่จำกัดสิทธิ์และไม่จำหน่าย ETH ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถือครอง ETH และได้รับ mETH ในอัตรา 1:1 ในปัจจุบัน mETH มีผู้ตรวจสอบ 15,025 คนและมี ETH ที่ถือครองมากกว่า 480,000 ETH.
เป็นโปรโตคอล LSD ของ Mantle ที่เกิดขึ้นภายใต้ mETH ได้รับการเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ในเวลาน้อยกว่า 1 ปี มูลค่าการเป็นเจ้าของรวมถึง 1.22 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4

มองกลับไปที่บริบทของการสร้างของ mETH Ethereum สำเร็จการเปลี่ยนจาก PoW เป็น PoS เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 และ Lido Finance ได้จัดตั้งตำแหน่งผู้นำตลาดด้วย TVL 13 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ที่แข่งขัน เช่น Rocket Pool's rETH ทำให้ Liquid Staking (LSD) มีการแข่งขันอย่างสูง สำหรับ mETH ที่เพิ่งเริ่มต้นการสนทนารอบแรกในฟอรั่มการบริหาร Mantle ไม่มีความได้เปรียบเปราะหน้าที่เป็นผู้ประกอบการแรก

อย่างไรก็ตามหลังจากการพิจารณาและเตรียมการทางเทคนิคของชุมชนอย่างละเอียด โปรโตคอลการมั่นคงประจำชุมชนของ ETH เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม 2023 (เริ่มต้นในฐานะ Mantle LSP) ด้วยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของมัน mETH ก็เริ่มต้นเป็น “ผู้เล่นใหม่” ในอุตสาหกรรม LSD ที่แข็งแกร่งอย่างมาก

ตามรายงานจาก DeFiLlama ในช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเปิดตัว Mantle LSP's TVL ได้เกินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีจุดสูงสุดถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคม 2024 และตอนนี้ยังคงรักษา TVL ไว้ที่เกิน 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD อันดับ 4 ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงว่า mETH มีผู้ใช้กระเป๋าสตางค์กว่า 8,000 คนบน Ethereum และ 26,000 คนบนเครือข่าย Mantle โดยมีจำนวนผู้ใช้และกิจกรรมที่น่าประทับใจ

![](https://s3.ap-northeast-1.amazonaws.com/gimg.gateimg.com/learn/3832250a8ed6c86e7d5e94eff908cb880a245dd3.png

แหล่งที่มา: DeFiLlama, 25/10/2024

ผู้ถือ mETH สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม DeFi ที่หลากหลายสําหรับกลุ่มสภาพคล่องการทําฟาร์มผลผลิตและกิจกรรมทางการเงินอื่น ๆ โดยไม่จําเป็นต้องยกเลิก ETH นี่คือตัวอย่าง dApp บางส่วนที่มีให้สําหรับผู้ใช้:

สำหรับการซื้อขาย Bybit จะมีคู่ค้า mETH/USDT และ mETH/ETH ในขณะที่ NativeX จะมีคู่ค้า mETH/WETH และตัวเลือกการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ สำหรับการให้กู้ยืม INIT Capital ให้ผู้ใช้ฝาก/ยืมตำแหน่ง ETH Timeswap ใช้ ETH เป็นหลักประกันและ MYSO Finance นำเสนอการแลกเปลี่ยนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมและการกู้ยืมที่กำหนดเองโดยไม่มีการขาดทุนสำหรับ Likudity Merchant Moe นำเสนอสระว่ายน้ำในรูปแบบต่าง ๆ ในขณะที่ Butter.xyz อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม Likudity ให้กับเหรียญที่ใช้ได้ทุกตัว รวมถึง ETH และ MNT

นี่เน้นความได้เปรียบที่เฉพาะของ mETH: มีระบบนิเวศที่หลากหลายและเจริญรุ่งเรืองของ Mantle เป็นผล mETH ได้รับประโยชน์จากช่วงเวลาที่มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนหลากหลายของสินทรัพย์สร้างรายได้ที่หลากหลายและความต้องการที่แข็งแกร่งขึ้น วงจรที่ดีและเป็นประโยชน์นี้ยิ่งเพิ่มขึ้นในการเติบโตและความสำเร็จต่อไปของ mETH

2.2.2 cmETH

ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2024 หกเดือนหลังจากการเปิดตัว mETH อย่างเป็นทางการข้อเสนอการกํากับดูแล MIP-30 ได้รับการอนุมัติโดยแนะนํา cmETH เป็นโทเค็นการปักหลักของเหลวใหม่ (LRT) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ mETH เป็นโทเค็นการปักหลักของเหลวที่อนุญาตให้ผู้ใช้เดิมพัน ETH และรับ mETH แต่ cmETH ทําหน้าที่เป็นโทเค็นการปักหลักใหม่เหลวซึ่งผู้ใช้สามารถเดิมพัน mETH และรับ cmETH บนพื้นฐาน 1: 1 \
เช่น mETH ก็เช่นเดียวกับ cmETH ที่สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระบบ Mantle (รวมถึง EigenLayer, Symbiotic, Karak, Zircuit, ฯลฯ) ทำให้ผู้ใช้สามารถสำรวจโอกาสในการได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมในขณะที่ยังคงได้รับคุณสมบัติของ mETH ผ่าน L2 และแอปพลิเคชันและโปรโตคอลที่มีการกระจายอย่างเสรี

ข้อดีสำคัญของ cmETH สำหรับ mETH คือ นอกจากการได้รับรางวัลพื้นฐานจากการถือครองเหรียญ มันยังครอบคลุมโอกาสในการได้รับผลตอบแทนมากขึ้น รวมถึงรางวัลจากโปรแกรมการถือครองเหรียญใหม่ (คาดหวังการแจกแจง), ผลตอบแทน AVS จากการถือครองเหรียญใหม่ และอื่น ๆ

สรุปมากๆ cmETH เป็นตัวเลือกที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง เมื่อเปรียบเทียบกับ mETH ทำให้มันเหมาะมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าภายในขอบเขตความเสี่ยงบางส่วน นอกจากนี้พร้อมกับการเปิดตัว cmETH MIP-30 ยังแสดงภาพตัวอย่างการเปิดตัว $COOK โทเคนการปกครองสำหรับ mETH

เรายังต้องการกล่าวถึงแคมเปญ "Methamorphosis" ของ Mantle ที่เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2024: ในงาน 100 วันนี้ mETH ใช้ข้อดีของระบบนิเวศและประกาศอย่างเป็นทางการถึงหน่วยงาน 23 แห่ง รวมถึงโครงการระดับโลกอย่าง EigenLayer, Symbiotic, Karak, Zircuit, และ Pendle ผู้ใช้สามารถรับรางวัลโดยการถือ mETH และสื่อสารกับหน่วยงานพาร์ทเนอร์ โดย Power tokens สามารถแลก COOK ในอนาคต

แหล่งที่มา: Mantle

แม้ซีซั่นแรกของ Methamorphosis จะสิ้นสุดลงแล้ว ในวันที่ 23 ตุลาคม mETH ประกาศว่าซีซั่นที่ 2 ของ Methamorphosis กำลังจะเปิดตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ระบบนิเวศของ Mantle กำลังจะเติบโตอย่างรุนแรงอีกครั้ง

2.2.3 FBTC

สินทรัพย์ที่ถูกห่อหุ้มของ Mantle ไม่ได้ถูก จำกัด ไว้ที่ ETH เท่านั้นในนิเวศน์ของมัน FBTC ซึ่งเปิดตัวร่วมกับ Antalpha แทนสินทรัพย์สำคัญรูปแบบหนึ่ง Bringing BTC เข้าสู่นิเวศน์ Ethereum ได้รับการทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยกับ WBTC แต่เป็นบางครั้งก็เผชิญกับปัญหาเรื่องความไว้วางใจ ในกรณีนี้ FBTC มีทางเลือกที่ดีกว่า

FBTC เป็นสินทรัพย์ Bitcoin ระหว่างช่องทางข้ามลิงค์ที่ผูกเข้ากับ BTC อย่างสมบูรณ์แบบ และให้ความสามารถในการสะสมเงินและซื้อขายข้ามลิงค์บนเครือข่าย Ethereum และ Mantle ทำให้ช่องทางการเข้าถึง Bitcoin และประโยชน์ของ Bitcoin เพิ่มขึ้น ด้วยการนำ FBTC เข้ามา Mantle ไม่เพียงเพิ่มความหลากหลายของสินทรัพย์ความเหลื่อมลิงค์ทางเชื่อมต่อบนเครือข่ายเท่านั้น แต่ยังสร้างตัวเลือกการซื้อขายข้ามลิงค์ใหม่สำหรับผู้ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานโดยรวม

พร้อมกับ mETH และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ FBTC เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าถึงหลากมิติของ Mantle ในการจัดการเงินสดและกลยุทธ์ cross-chain ซึ่งช่วยสร้างระบบนิวัติของ DeFi บนเชน ด้วยความสนับสนุนจากนิวัตินี้ กลยุทธ์สินทรัพย์ multi-chain นี้จะนำ Mantle ให้เป็นผู้แข่งขันที่มีพลังในพื้นที่ความเป็นหลักที่ 2 และความเป็นหลักที่ต่างกัน

2.3 เกม

หัวหน้าแผนกเกมของ Mantle คือ Grant Zhang ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในอุตสาหกรรมเกม เขาเคยเป็นผู้นําทีมปล่อยตัวสําหรับเกมเช่น League of LegendsและGame of Thronesด้วยโครงการที่เขามีส่วนร่วมในการสะสมมากกว่า 500 ล้านดาวน์โหลด

การทฤษฎีของ Mantle ในการเล่นเกมมีลักษณะที่แตกต่างออกไปจากระบบนิเวศอื่นๆ โดยความแตกต่างนี้มาจากทีมงานเองอย่างมาก ในนิเวศอื่น ๆ การพัฒนาส่วนเกมมิ่ง มักเป็นไปโดยนักลงทุนที่มีชื่อเสียง ในขณะที่ทีมเกมมิ่งของ Mantle เป็นทีมที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในการจัดพิมพ์เกมและการดำเนินงาน โครงสร้างนี้ทำให้ Mantle สามารถให้การสนับสนุนที่มีน้ำหนักมากกว่าให้กับพันธมิตรในการเล่นเกม รวมถึงการออกแบบการทำเหรียญ, แบบจำลองเศรษฐศาสตร์, การจัดพิมพ์เกม, การจัดหาเงินทุน และการเข้าถึงผู้ใช้

แม้จะมีคลังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ Web3 แต่ Mantle ยังคงเลือกมากในเกมที่รองรับ ซึ่งแตกต่างจากระบบนิเวศอื่น ๆ ที่อาจพยายามแนะนําเกมหลายร้อยเกมโดยการหล่อตาข่ายกว้าง Mantle ได้เลือกที่จะสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้งและมีความหมายกับเกมประมาณ 7-8 เกมเท่านั้นโดยให้การสนับสนุนที่จับต้องได้อย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้เกมที่เลือกเหล่านี้จึงได้รับเงินทุนและความช่วยเหลือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ที่นี่เราจะแนะนำหนึ่งในโปรเจคเกมมิ่งหลัก:

2.3.1 Catizen

Catizenเป็นเกมมินิที่มีธีมแมว ที่สร้างขึ้นบนโปรแกรมมินิของเทเลแกรม ที่ผู้เล่นสไลด์เพื่อให้อาหารแมวและรับรางวัล ตามทวีตจากปาเวล ดูโรฟ ประธานเจ้าหน้าที่เทเลแกรม ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2024Catizenได้ดึงดูดความสนใจจากผู้เล่นมากกว่า 26 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าทึ่งเมื่อเทียบกับการเปิดตัวเกมเพียง 4 เดือนก่อนในวันที่ 19 มีนาคม 2024

ตัวอย่าง Catizen แหล่งที่มา: Catizen
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 Catizenเป็นพันธมิตร戦略กับ Mantle อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่าง Mantle และ Catizen และสํานักพิมพ์ Pluto Studio มีอายุย้อนไปถึงเดือนสิงหาคม 2023 Mantle ได้ให้การสนับสนุนที่ครอบคลุมในด้านต่างๆรวมถึงการออกแบบเกมเศรษฐศาสตร์โทเค็นการได้มาซึ่งผู้ใช้และแม้แต่ความร่วมมือกับ TON ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้โครงสร้างทีมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mantle ช่วยให้สามารถให้การสนับสนุนอย่างมืออาชีพและใช้งานได้จริงซึ่งสามารถขับเคลื่อนความสําเร็จของโครงการได้อย่างมีนัยสําคัญซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบนิเวศอื่น ๆ อาจไม่สามารถทําได้

สำหรับ Mantle, เกมเช่น Catizenและแตะเพื่อรับรางวัล, ซึ่งมีลักษณะที่ไม่เป็นทางการและเหมาะสำหรับการดึงดูดผู้ใช้ จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เกมเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของเทเลแกรมในการนำผู้ใช้มาใช้เล่นเกมแบบไม่เป็นทางการ แผนการณ์ในอนาคตของ Mantle นั้นรวมถึงการพัฒนาต่อไปพร้อมกับระบบนาฬิกาขนาดเล็กของเทเลแกรม โดยเริ่มต้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมที่เหมาะสมตามขั้นตอนการวิวัฒนาการ

ตอนนี้ที่เขียนอยู่,คาติเซนมีผู้ใช้งานกว่า 600,000 คนบนบล็อกเชน Mantle โทเค็นของเกมคือ CATI มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 76.63 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นสินทรัพย์ระดับต้นๆตามมูลค่าที่สร้างขึ้นบน Mantle

X: @CatizenAI

2.3.2 MetaCene

MetaCene เป็นเกมออนไลน์มัลติเพลเยอร์ขนาดใหญ่ (MMORPG) ที่ผสมผสานองค์ประกอบของ Web3 โดยรวมถึง NFTs, กลไกบล็อกเชน และเทคโนโลยี AI กับคุณสมบัติเกมคลาสสิก เช่น การต่อสู้ PvP และการจัดการที่ดินMetaCene ได้ถูกก่อตั้งโดย Qunzhao (Alan) Tan, นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์

เป็นเกม MMORPG ที่ซับซ้อน,MetaCeneมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นในเชิงราคา กฎเกณฑ์ และการออกแบบโมเดลเศรษฐกิจ แมนเทิล พร้อมทีมงานจาก Game7, Hyperplay, Yeeha, และ Community Gaming สามารถให้การสนับสนุนอย่างเป็นรายละเอียดทั้งในเรื่องการเพิ่มผู้ใช้ การเก็บรักษาผู้ใช้ โครงสร้างพอร์ตวอลเล็ท จุดเข้าถึง และความปลอดภัย ซึ่งนำมาให้บริการ เมตาซีนการสนับสนุนที่จำเป็น

เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ก่อตั้งสมาคมเกมบล็อกเชนชั้นนําหลังจากประสบการณ์อันยาวนานกับ MetaCene, มีคำชมเกี่ยวกับเกมที่ออกแบบลึกซึ้งและมีผู้เล่นระดับนานาชาติที่นำมาพิสูจน์ความสามารถในการเล่นของมันได้อีกขั้น
ณ เวลาที่เขียนเมตาซีนมีผู้ใช้มากกว่า 510,000 คน โดยผู้ใช้ที่ใช้งานประจำวันสูงสุดถึง 360,000 คน

X: @MetaCeneGame

2.3.3 ฟันตันเอไอ

Funton.aiเป็นส่วนเสริมใหม่ในระบบ Mantle ในเดือนตุลาคม 2024 ในฐานะแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มชั้นนำในระบบ TON Funton.aiมุ่งมั่นที่จะสร้างนิเวศ GameFi ที่กระจายอำนาจ โดยรวมศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์และเกม ให้บริการสร้างเกมแบบคลิกเดียว โดยถึงเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2567 มันได้เกินกว่า 350,000 ผู้ใช้ที่ใช้งานรายเดือนแล้ว ความร่วมมือกับ Mantle จะช่วยดึงดูดผู้ใช้ Telegram ล้านคนเข้าสู่นิเวศ MantleFunton.ai สร้างขึ้นอีกด้วย Flappy MNT, เกมที่ผู้ใช้สามารถรับ $MNT และ FUN Points ได้โดยการเชื่อมต่อกระเป๋าสตางค์ที่มี $MNT และเล่นเกม

อย่างสังเกต, Funton.aiเร็ว ๆ นี้ได้ร่วมมือกับหลายองค์กรรวมถึง gate Exchange และ OKX Wallet เพื่อดำเนินการแอร์ดรอปสำหรับ $FUN token เพิ่มความส่งเสริมตลาดและผู้ใช้งานFunton.aiก็ได้เข้าสู่ Web3Labs และ KuCoin Labs’ accelerators โดยได้รับการยอมรับจากสถาบัน Web3 ในวงกว้าง

X: @funton_ai

Mantle มักลงทุนความพยายามอย่างมากเพื่อสนับสนุนนิเวศ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับบล็อกเชนสาธารณะอื่น ๆ ด้านล่างคือกิจกรรมและกิจกรรมสำคัญของนิเวศ

2.4.1 กองทุน EcoFund

Mantle EcoFund เป็นกองทุนระบบนิเวศมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ที่จัดทําโดย Mantle Treasury โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการยอมรับของนักพัฒนาและ dApps บนเครือข่าย Mantle กองทุนจัดลําดับความสําคัญของการลงทุนในทีมที่สร้างโครงการคุณภาพสูงและนวัตกรรมภายในระบบนิเวศของ Mantle และจะเพิ่มเงินทุนสําหรับโครงการที่โดดเด่นที่มีศักยภาพตามความเหมาะสม

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการ กองทุน EcoFund ได้ทำการสนับสนุนโครงการมากกว่า 13 โครงการ รวมถึง INIT Capital, Catizen, และ Merchant Moe ซึ่งทั้งหมดได้เติบโตเป็นผู้มีส่วนร่วมรากฐานภายในระบบ Mantle แล้ว

2.4.2 การให้ทุนแมนเทิล

เพื่อกระตุ้นความมีชีวิตของระบบนิเวศ แมนเทิลได้สร้างโปรแกรมส่งเสริมสองโปรแกรม:

โครงการ Mantle Scouts: เปิดตัวในเดือนเมษายน 2024 โครงการนี้มอบอำนาจให้กับผู้นำอุตสาหกรรม 16 คนในการอนุมัติการใช้ MNT มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการที่มีคุณภาพสูงภายในระบบนี้เพื่อสนับสนุนนวัตกรรม โครงการนี้ให้การสนับสนุนแนะนำ ทรัพยากรเครือข่าย และการสนับสนุนทางการเงินเพื่อเร่งความสำเร็จของโครงการภายในเครือข่าย Mantle

เงินทุนทุนสาธารณะ: แมนเทิลเสนอเงินช่วยเหลือ (สูงถึง $ 20,000 ใน MNT) ให้กับโครงการระยะแรกส่งเสริมชุมชนนักพัฒนาที่มีชีวิตชีวา

2.4.3 เกม 7

เนื่องจากการเล่นเกมเป็นจุดสนใจหลักสําหรับการพัฒนาระบบนิเวศของ Mantle Mantle จึงได้ร่วมมือกับ Game7 เพื่อเปิดตัวโปรแกรมเร่งความเร็วเกม จากโครงสร้างพื้นฐานของ Mantle Network Game7 มอบเครื่องมือที่จําเป็นให้กับนักพัฒนาเกม รวมถึงตลาด NFT การเชื่อมโยงข้ามสายโซ่ และ DAOs ของเกม ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศขับเคลื่อนการพัฒนาโลกของเกมที่ไม่ได้รับอนุญาตและทํางานร่วมกันได้

2.4.4 Sozu Haus

ในเชิงของการนำเสนอผู้พัฒนา, Mantle ได้สนับสนุนและเป็นเจ้าภาพให้กับการแข่งขันแฮ็กกาธอนทั่วโลก 26 รายการ รวมทั้งมีการจัดงานเสวนาเทคนิคและ AMAs ออนไลน์จำนวนมาก มีโครงการมากกว่า 900 โครงการที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันแฮ็กกาธอน นอกจากนี้ Mantle ยังจัดองค์กรพิเศษ 6 Sozu Hausเหตุการณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมมินิแอคเซลเลอเรเตอร์และเมเกอร์สเปซของแมนเทิล อีกทั้ง แมนเทิลยังเป็นเจ้าภาพเหตุการณ์สัมมนาโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดผู้ก่อตั้งและนักพัฒนาชั้นนำ

2.4.5 คู่ค้าในระบบนิเวศอื่น ๆ

นอกจากนี้ Mantle ยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยที่พันธมิตรเหล่านี้ไม่เพียงแค่สนับสนุนการขยายของระบบ Mantle แต่ยังให้ทรัพยากรมีค่าในด้านการสนับสนุนทางทุน การเคลื่อนย้ายผู้ใช้ ทรัพยากรนักพัฒนา ความเชื่อมั่นในตลาด การรับรองจากอุตสาหกรรม และการศึกษาสำหรับนักพัฒนา

ตัวอย่างเช่น Mirana Ventures ได้ให้การสนับสนุนทุนเงินและทรัพยากรต่อเนื่องสำหรับนิเวศ Mantle นอกจากนี้ Mirana Ventures ยังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสถาบันการลงทุน 100 อันดับแรกในรางวัล RootDada ปี 2023 กองทุนของพวกเขาที่มีมูลค่าการจัดการในระดับหลายล้านดอลลาร์ได้สร้างและฟักฟูโครงการหลายๆ โครงการที่เด่นที่ด้วยการลงทุนรวมถึง TON, Morpho, Zircuit และ Story Protocol นอกจากนี้ Mantle ยังเป็นพาร์ทเนอร์ทางเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงของ Eigenlayer

ในแง่ของชุมชนนักพัฒนา Moledao ยังเป็นผู้สนับสนุนระบบนิเวศของ Mantle อย่างแข็งแกร่ง Moledao มุ่งเน้นไปที่การจับคู่ทรัพยากรและการสนับสนุนสําหรับโครงการและนักพัฒนา Web3 ในระยะเริ่มต้น ผ่านชุดหลักสูตรการศึกษา Web3 แฮกกาธอนและกิจกรรมออฟไลน์อื่น ๆ Moledao ได้ช่วยให้ Mantle เชื่อมต่อและดึงดูดโครงการและนักพัฒนาบล็อกเชนที่ยอดเยี่ยมมากมาย ในฐานะชุมชนนักพัฒนา Moledao ยังคงให้การสนับสนุนด้านนวัตกรรมทางเทคนิคและทรัพยากรความสามารถแก่ Mantle ซึ่งช่วยในการพัฒนาและปรับแต่งระบบนิเวศบล็อกเชนอย่างรวดเร็ว

2.4.6 สิ่งส่งเสริมระบบนิเวศ

คลังของ Mantle (เกือบ 3 พันล้านเหรียญเงิน, อันดับสองของโลก) เป็นแหล่งที่สำคัญของความมั่นใจและความเข้มแข็งของมัน รายได้จากดอกเบี้ย PoS จากคลังเงินถูกส่งตรงกลับไปยังผู้ใช้ เช่น ผ่านราง Eigenlayer ของเงินรางวัล restaking ซึ่งเป็นสิทธิ์แรงจูงใจของระบบนิเวศน์ กลไกของการรางวัลนี้เพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในระบบนิเวศน์ ผ่านการปฏิสัมพันธ์ภายในระบบนิเวศน์หรือการมีส่วนร่วม ผู้ใช้ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาของระบบนิเวศน์เท่านั้น แต่ยังแบ่งปันรายได้จากคลังของเงิน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบนิเวศน์มีความเคลื่อนไหวและสามารถเองได้

3. จุดเด่นสำคัญ

ในระยะเวลาที่ผ่านมา Mantle ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในพื้นที่ Layer 2 (L2) ด้วยตัวเลขการเติบโตที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ใช้ในขั้นตอนนี้ ด้วยความรวมร่วมต่อเนื่องของระบบนิเวศและการมาถึงของ cmETH และ COOK จะทำให้การเติบโตของ Mantle ยังคงมีความแข็งแกร่ง ด้วยการเติบโตที่คาดเดาไว้นี้ เรามีการสังเกตสำคัญต่อไปนี้

การรับรองที่แข็งแกร่งจาก Bybit: ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง Mantle และ Bybit โครงการที่โดดเด่นภายในระบบนิเวศของ Mantle จะมีโอกาสได้รับการจดทะเบียนใน Bybit และสัมผัสกับฐานนักลงทุนที่กว้างขึ้นผ่านคําแนะนําของ Bybit สําหรับทีมพัฒนา dApp สิ่งนี้แสดงถึงทรัพยากรและช่องทางการเปิดรับที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ การสนับสนุนจากคลังที่ใหญ่ที่สุด: ด้วยเงินเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ใน Mantle Treasury กองทุนนี้เป็นการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพสําหรับโครงการที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Mantle ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสําหรับการพัฒนาระบบนิเวศ Mantle กําลังสร้างศูนย์แอปพลิเคชันแบบ on-chain ทางการเงินและผู้บริโภคที่คุ้มค่ามากขึ้นซึ่งรายได้ดอกเบี้ยจากคลังสามารถให้เงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้เป็นข้อเสนอแนะ ข้อดีของสถาปัตยกรรมเทคโนโลยี: การออกแบบโมดูลาร์ของ Mantle นําเสนอความสามารถในการปรับขนาดที่สําคัญและข้อได้เปรียบในการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนทําให้เครือข่ายมีความยืดหยุ่นและเปิดรับนวัตกรรมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ LSD Ethereum ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่: ผู้สนับสนุน TVL สี่อันดับแรกของ Mantle ล้วนมาจากพื้นที่ DeFi การบรรลุการรวมสภาพคล่องซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ DeFi เป็นสิ่งสําคัญ แมนเทิลทุ่มเทให้กับการแก้ปัญหาการกระจายตัวของสภาพคล่องและได้ลงทุนอย่างมีนัยสําคัญในโดเมนการปักหลักของเหลว ด้วยการออกแบบพื้นฐานขั้นสูงและการสนับสนุนระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง mETH ได้เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นผลิตภัณฑ์ Ethereum LSD ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ ระบบนิเวศการเล่นเกมที่เฟื่องฟู: จนถึงปัจจุบันภาคเกมของ Mantle ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงเจ็ดรายการโดยมีโครงการต่างๆเช่น Catizen และ MetaCene เป็นเลิศในช่องของตน แมนเทิลวางแผนที่จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมทั้งหมดในไตรมาสต่อ ๆ ไป เพื่อเร่งการเติบโตของระบบนิเวศต่อไป การสนับสนุนที่ครอบคลุมสําหรับนักพัฒนาและผู้ก่อตั้ง: อุตสาหกรรม Web3 ต้องการกรณีการใช้งานนวัตกรรมและสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น Mantle ได้ดําเนินโครงการจูงใจนักพัฒนาที่หลากหลายเช่น Sozu Haus Hacker House และ EcoFund มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ซึ่งสอดแนมและสนับสนุนความสามารถของนักพัฒนาระดับสูงอย่างแข็งขัน สําหรับนักพัฒนาที่มีความสามารถสร้างสรรค์และหลงใหล Mantle เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสําหรับการเติบโต

ในฐานะที่เป็นโครงการเลเยอร์ 2 ที่คุ้มค่าและรองรับอนาคต Mantle มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นําในการพัฒนาธุรกรรมและแอปพลิเคชันแบบ on-chain ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่เหมาะสําหรับ DeFi และแอปพลิเคชันแบบกระจายอํานาจ เราควรมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของ Mantle ในฐานะโซลูชันเลเยอร์ 2 และเปรียบเทียบภายในพื้นที่บล็อกเชนสาธารณะที่กว้างขึ้น ประสิทธิภาพระบบนิเวศ TVL และตัวชี้วัดอื่น ๆ เหนือกว่าโครงการ Layer 1 ส่วนใหญ่แล้ว ด้วยประวัติการเติบโตสั้น ๆ การสนับสนุนที่แข็งแกร่งของคลังและความมุ่งมั่นในการ "ทําสิ่งที่ถูกต้อง" มีเหตุผลทุกอย่างที่จะคาดหวังว่า Mantle จะนํานวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นมาสู่โลก Web3

บางทีน่าจะเกิดนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดถัดไปบน Mantle อาจเกิดขึ้น

อ้างอิง:

คำเตือน:

  1. บทความนี้ถูกพิมพ์ซ้ำจาก [[foresightnews]https://s.foresightnews.pro/article/detail/73050]. ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [ Klein Labs+Web3Labs]. If you have any objection to the reprint, please contact ทีมเรียนรู้ของเกต, ทีมงานจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
  2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้นและไม่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนใด ๆ
  3. ทีมสอนของเกต เป็นผู้แปลบทความเป็นภาษาอื่น การคัดลอก การแจกจ่ายหรือการลอกเลียนแบบบทความที่แปลนั้นถูกห้ามโดยไม่ได้ระบุ
เริ่มตอนนี้
สมัครและรับรางวัล
$100