ความสมดุลของวิทยาศาสตร์และมีมของ DeSci

บทความนี้วิเคราะห์ถึงวิทยาศาสตร์ที่กระจาย (DeSci) ทำให้เหรียญมีมเข้าสู่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการสำรวจทางวิทยาศาสตร์จริง บทความนี้วิเคราะห์รูปแบบธุรกิจของ Bio Protocol และ Pump.Science และพูดถึงความต้องการและตลาดจริงของ DeSci ศักยภาพ และพูดถึงว่า DeSci มีการดูแลการลงทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาว พร้อมกับการพูดคุยในตลาดเซฟโก้ในช่วงสั้น ๆ ของตลาดเข็มขั้ว เช่นกันกับทิศทางการพัฒนาในอนาคตของเรื่องราวของ DeSci

Forwarded the Original Title: ทางแยกของ DeSci: กลับสู่ค่าความคิดเดิมหรือการตามหามีม?

การตกลง DeSci เพิ่งเริ่มต้น

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน Paul Kohlhaas ผู้ก่อตั้ง BIO Protocol ได้ตอบกลับทวีตของ CZ บนแพลตฟอร์มโซเชียลและกล่าวว่า "Decentralized Science (DeSci) ประสบความสําเร็จในการกระจายสภาพคล่องของเหรียญมีมไปยังมหาวิทยาลัยและห้องปฏิบัติการทั่วโลกเพื่อสนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง" ปรากฏการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง: การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ซึ่งมีลักษณะดั้งเดิมคือความเข้มงวดและความมุ่งมั่นในระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์สามารถตัดกับตลาด crypto ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้สําเร็จได้อย่างไร?

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการแพทย์ต้องใช้เงินลงทุนจํานวนมากโดยปกติจะวัดเป็นปีหรือสิบปี สิ่งนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับวัฒนธรรม "ผลตอบแทนทันที" ของตลาดในปัจจุบัน เหตุใดวิทยาศาสตร์การกระจายอํานาจจึงกลายเป็นประเด็นร้อนในเดือนพฤศจิกายน เป็นเพราะการปรับฐานของตลาดที่เกิดจากความเชื่อมั่นของมีมถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์หรือไม่? หรือ Decentralized Science เป็นเพียงเทรนด์มีมใหม่ที่ปิดบังอยู่ในหน้ากากของการเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติผ่านการวิจัยหรือไม่? บทความนี้จะตรวจสอบรูปแบบธุรกิจและทิศทางการพัฒนาของ Bio Protocol และ Pump.Science เพื่อสํารวจความต้องการที่แท้จริงสําหรับ DeSci เงื่อนไขที่สามารถสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและศักยภาพในการพัฒนาในระยะยาว

การแยกวิเคราะห์รายได้จากโมเดลธุรกิจโปรโตคอลชีววิธี

สิ่งที่เป็นสาเหตุตัวแรกของนิเวศวิทยา DeSci คือ Bio Protocol ในวันที่ 8 พฤศจิกายน บินานซ์ได้เสร็จสิ้นการเงินระดับกลยุทธ์สำหรับ BIO แต่รอบและจำนวนไม่ได้ประกาศ เนื่องจากสิ่งนี้ BIO ได้เริ่มการเข้าร่วมกับชุมชน BIO Genesis เพื่อสร้างกองทุนจำนวน 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน BIO มี 7 DAOs ที่ใช้งานอยู่การวิจัยเกี่ยวกับอายุยืนและสุขภาพการรักษาผมร่วงสุขภาพสมอง ควรสังเกตว่า BioDAO ไม่ได้อ้างถึงทีมวิจัยในทิศทางที่แน่นอนเช่นอายุยืนและการติดตามสุขภาพ แต่ควรถือเป็นการดําเนินการเฉพาะของโปรโตคอล BIO ทําไมฉันถึงพูดแบบนี้? โปรดดูแผนที่รูปแบบธุรกิจ BIO Protocol ด้านบน พูดง่ายๆ ก็คือ BIO ประกอบด้วย Launchpad ที่ซ้อนกัน การปักหลักที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ สิ่งจูงใจ และ Launchpad ในตัวที่เปิดใช้งานการขยายเศษส่วนได้ไม่จํากัด BIO ประกอบด้วยส่วนประกอบที่เชื่อมต่อกันทั้งสี่นี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนแรก โครงการเปิดตัว BioDAOs, BioDAO สามารถระดมทุนผ่านการขายโทเค็นและใช้ทุนเพื่อสนับสนุนโครงการไบโอเทคที่เกี่ยวข้อง แต่ละ BioDAO ยังสามารถมองเป็น Launchpad ได้เช่นกัน ซึ่งจะพูดถึงในส่วนที่สี่

ส่วนที่สองคือกลไกการ stake ของ BIO ภายใต้เครื่องหมายของการคัดเลือก โทเค็นของผู้ใช้ถูกล็อคไว้ จากหน้าหน้าการปกครองและการเสนอข้อเสนอ มันเป็นชัดเจนว่าอัตราการ stake ปกคลุมโดยทั่วไปของ BIO อยู่ที่ร้อยละ 15 แต่เมื่อลงคะแนนเสียงเพื่อสร้าง BioDAO ใหม่ อัตราการ stake เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ การ stake ไม่ได้ให้ผลตอบแทนโดยตรง แต่แทนที่นั้น ผู้ใช้ที่ stake บน BioDAO ที่ชนะการเลือกได้รับรางวัลโทเคน BIO หาก BioDAO ที่พวกเขาลงคะแนนเสียงไม่ได้รับการเลือก ก็ไม่มีรางวัล การคัดเลือกเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับ BIO เพื่อล็อคโทเคนของผู้ใช้ เมื่อ BioDAO ใหม่ถูกเปิดตัว มูลค่าที่เป็นผลลัพธ์ของมันสูงกว่ารางวัลที่ออกโดย BIO

ส่วนที่สามเป็นกรณีการใช้งานหลักของโทเค็น BIO: สิ่งจูงใจ สิ่งจูงใจแบ่งออกเป็นสองส่วน พื้นที่แรกสําหรับ BioDAOs ที่เข้าร่วม เมื่อพวกเขาเปิดตัวการขายโทเค็นเริ่มต้น BIO จะออกสิ่งจูงใจ สําหรับผู้ใช้สิ่งจูงใจจะออกหากพวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์ของ BioDAO หรือมีส่วนร่วมบางอย่างกับ BioDAO อย่างไรก็ตามจํานวนโทเค็นที่ออกเป็นสิ่งจูงใจในปัจจุบันดูเหมือนจะเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมสิ่งนี้ช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่นการเข้าร่วมการทดลองยาในอุตสาหกรรมดั้งเดิมมีราคาแพงมากในขณะที่ BIO ออกสิ่งจูงใจในรูปแบบของโทเค็น BIO

ส่วนที่สี่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวแบบฟรักทัล แต่ละ BioDAO สามารถมองเห็นได้เป็น Sub-Launchpad เมื่อ BioDAO เลือกทีมหรือหัวข้อวิจัยเฉพาะ ระดมทุน และออกโทเค็นทรัพย์สินบัญชีหรือ IP NFTs ผู้ถือสิทธิ์ทรัพย์สินเหล่านี้ได้รับสัญญาว่าจะมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมตั้งแต่เร็วๆ แต่ไม่มีการรับรองใดๆ ในรูปแบบของผลตอบแทนเพิ่มเติม

จากมุมมองของรูปแบบธุรกิจ BIO ยังคงดําเนินการโดยใช้วิธีการในอุตสาหกรรมที่คุ้นเคย แต่คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันอยู่ใน Launchpad ที่ซ้อนกันอยู่ภายในโครงสร้าง Launchpad เนื่องจากโครงการวิจัยเฉพาะออกโทเค็นหรือสินทรัพย์ NFT การขาดแคลนสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อโทเค็น BioDAO ก่อน ในขณะเดียวกันโทเค็น BIO ทําหน้าที่เป็นชั้นของการประกันภัย มูลค่าของมันจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ต่อเมื่อโทเค็น BioDAO หลายตัวพบปัญหา ในขณะเดียวกันประโยชน์ของการออกสินทรัพย์โดยโครงการวิจัยเฉพาะจะสะท้อนถึง BIO อย่างเต็มที่เนื่องจากดึงดูดผู้ใช้ให้ซื้อโทเค็น BIO และมีส่วนร่วมในระบบนิเวศมากขึ้น คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือเหตุผลของ "การมีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์" เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้เดิมพันโทเค็นโดยไม่จําเป็นต้องให้ผลตอบแทนโดยตรง ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นมาจากโทเค็น BioDAO หรือโครงการวิจัยเฉพาะทําให้ BIO สามารถล็อคโทเค็นผู้ใช้ในระยะยาวด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด BIO ทําหน้าที่เป็นโทเค็นดัชนีที่ครอบคลุมโทเค็น DAO เหล่านี้ทั้งหมด

Pump.Science ยังไงทำให้เส้นทางภายใน DeSci และ Memecoins กลายเป็นภาพลวงตา?

Molecule เป็นโปรโตคอลสำหรับการนำทรัพย์สินทางปัญญา (IP) มาต่อเชื่อมกับโซ่บล็อกเชน รับผิดชอบในการออก IP-NFTs และ IPTs สำหรับ Bio Protocol ซึ่ง Pump.Science เป็น Launchpad ของ Molecule ที่จะทำ Tokenize สิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับสารประกอบที่เฉพาะเจาะจงในรูปแบบโทเค็น

Pump.Science ให้เหตุผลว่าไม่เหมือนกับการซื้อหุ้นใน บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพซึ่งเท่ากับการเป็นเจ้าของพอร์ตโฟลิโอยาทั้งหมดของ บริษัท แพลตฟอร์มของมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในยาตัวเดียวได้ โทเค็นที่ออกใน Pump.Science เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมาย แต่มีเพียงสารประกอบสังเคราะห์เท่านั้นที่สามารถโทเค็นได้ไม่ใช่สารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นนิโคติน อย่างไรก็ตามหากนิโคตินรวมกับสารอื่นเช่นคาเฟอีนการรวมกันนั้นสามารถจดสิทธิบัตรได้ วิธีการของ Pump.Science เกี่ยวข้องกับการจดสิทธิบัตรหรือข้อมูลเหล่านี้และทดสอบประสิทธิภาพ

Pump.Science ได้เปิดตัวสองโทเค็นจากการถ่ายทอดเทคโนโลยี นั่นคือ $RIF และ $URO ส่วนมูลค่าตลาดของ $RIF ได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์แล้ว โทเค็นเหล่านี้แทนสารเคมีที่สามารถพัฒนาเป็นอาหารเสริมและสร้างรายได้ผ่านการขายหรืออนุญาตสิทธิบัตร ในการดึงดูดนักลงทุนเพิ่มเติม Molecule พัฒนาชุดข้อมูลเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสารเคมีเหล่านี้ เช่นการแสดงให้เห็นถึงอายุขัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการทดสอบกับสัตว์

อย่างไรก็ตาม Pump.Science มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงหรือไม่? หลักฐานชี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่นมากขึ้น เมื่อคริสต์มาสใกล้เข้ามา Pump.Science วางแผนที่จะจัดงาน "Rif Christmas" โดยเปิดตัวโทเค็นสองโทเค็นต่อวันเป็นเวลาสิบวันโดยปล่อยโทเค็นผสมสังเคราะห์ 20 โทเค็นในเดือนธันวาคมเพียงอย่างเดียว ในขณะที่แพลตฟอร์มอ้างว่าจะค่อยๆเปิดเผยเส้นทางการพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่การทดลองในมนุษย์และแม้กระทั่งสร้างตลาดผลิตภัณฑ์สําหรับอาหารเสริมต่างๆความเป็นจริงที่เป็นไปได้คือโทเค็น 20 เหล่านี้ส่วนใหญ่จะสูญเสียมูลค่าตลาดทั้งหมดนานก่อนที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เกี่ยวข้องจะออกสู่ตลาด

จากมุมมองของการตามแนวโน้มของตลาด Pump.Science กำลังก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยมีแผนที่จะสร้างบอท AI ที่ซื้อขายโดยอ้างอิงผลของการทดลองรวมและดำเนินการตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ในขั้นต่างๆ

กลับไปที่หัวข้อหลัก: DeSci ควรมุ่งเน้นไปที่คุณค่าที่แท้จริงหรือไล่ตามเทรนด์มีมต่อไปหรือไม่? จากรูปแบบธุรกิจและทิศทางการพัฒนาของ Bio Protocol และ Pump.Science เห็นได้ชัดว่าไม่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในขณะที่หลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเสนอ memecoins นี่อาจเป็นหนึ่งในเส้นทางในอนาคตที่เป็นไปได้สําหรับโปรโตคอล DeSci อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน: การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องยึดมั่นในพื้นฐานและกฎวัตถุประสงค์ การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพต้องใช้เงินทุนระยะยาวและจํานวนมากทําให้การเก็งกําไรระยะสั้นกับ memecoins ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้การพึ่งพา memecoin เดียวไม่ใช่รูปแบบการพัฒนาที่ทํางานได้สําหรับโปรโตคอล DeSci

การลงทุนใน DeSci tokens ต้องใช้ความอดทนในเรื่องเล่าที่อาจขาดความสนใจในตอนแรก DeSci ต้องใช้โมเดลโทเคนแบบ VC เพื่อเพิ่มมูลค่า ปรับปรุงค่าความรู้สึกในโครงการชั้นนำ และปล่อยสัญญาณผ่านตัวบ่งชี้ได้ตลอดเวลา เนื่องจากการรับรู้ตลาดของ DeSci ต่ำกว่า AI จึงต้องใช้สัญญาณอำนาจมากขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเห็นด้วยกันในตลาด

ในเชิงกลยุทธ์การตลาดที่เฉพาะเจาะจง (GTM) DeSci สามารถแบ่งเป็นหลายหมวดหมู่: การระดมทุน, การวิจัย, ข้อมูล, การตรวจทานจากเพื่อนร่วมงาน, การเผยแพร่, โครงสร้างพื้นฐานและบริการ, ศิลปะ, ระบบนิเวศวิทยาเปิด, และการสร้างชุมชน ควรเลือกพื้นที่ที่สอดคล้องกับความเข้าใจของตนเองหรือมีอุปสรรค์ที่ต่ำเมื่อนำไปปฏิบัติ

นอกจากนี้ โมเดลของ DeSci มีลักษณะฟรักทัลเอง - แต่ละหัวข้อวิจัยสามารถทำหน้าที่เป็นโทเค็นย่อยได้ โครงการขนาดใหญ่สามารถสนับสนุนโครงการขนาดเล็กๆ โดยใช้เงินทุนร่วมกันแบบ web3 เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยในโลกจริง โครงการเหล่านี้สามารถเป็นตัวอย่างปฏิบัติในการใช้งาน DeSci ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความไม่แน่นอนและอัตราการล้มเหลวสูงของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เชิงนี้เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ

ตลาดต้องการตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงมากมายของ DeSci ที่สร้างผลกระทบเพื่อสร้างฉันทามติ และกระบวนการนี้จะใช้เวลามากกว่าการเล่าเรื่อง AI ChatGPT เปิดตัวเมื่อปลายปี 2022 และภายในปี 2023 การเก็งกําไรในพื้นที่ crypto เริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม DeSci จะต้องมีไทม์ไลน์ที่ยาวขึ้น จากมุมมองอื่นแม้ว่าความล่าช้านี้จะล้างอุปสรรคบางอย่างสําหรับ DeSci การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI ได้เตรียมผู้คนให้พร้อมโดยไม่รู้ตัวเพื่อยอมรับความเป็นไปได้ของสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้กลายเป็นความจริงทําให้ความคิดริเริ่มเช่นวิทยาศาสตร์อายุยืนของ VitaDAO ไม่ใช่ความฝันที่ห่างไกลอีกต่อไป โดยสรุปฉันเชื่อว่าฉันทามติเกี่ยวกับ DeSci เพิ่งเริ่มต้น มันต้องมีการพัฒนาในระยะยาวและเราควรเตรียมพร้อมสําหรับการเล่าเรื่องนี้เพื่อเริ่มต้นอย่างเต็มที่ในตลาดกระทิงครั้งต่อไปเท่านั้น

คำประกาศ

  1. บทความนี้ถูกเผยแพร่จาก [ TechFlow]. ส่งต่อชื่อเรื่องต้นฉบับ: ทางแยกของ DeSci: กลับสู่ค่าความหรือตามล่ามีม? ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนเรื่องต้นฉบับ [Kevin, นักวิจัยจาก BlockBooster]. หากคุณมีข้อความที่คุณไม่เห็นด้วยในการนำเผยแพร่ กรุณาติดต่อ เกตเรียนทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
  2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงถึงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดขึ้นเป็นการแนะนำในการลงทุนใด ๆ
  3. เวอร์ชันภาษาอื่นของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn นอกเหนือจากนี้ บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถคัดลอก กระจาย หรือลอกเลียน

ความสมดุลของวิทยาศาสตร์และมีมของ DeSci

กลาง12/11/2024, 7:34:29 AM
บทความนี้วิเคราะห์ถึงวิทยาศาสตร์ที่กระจาย (DeSci) ทำให้เหรียญมีมเข้าสู่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการสำรวจทางวิทยาศาสตร์จริง บทความนี้วิเคราะห์รูปแบบธุรกิจของ Bio Protocol และ Pump.Science และพูดถึงความต้องการและตลาดจริงของ DeSci ศักยภาพ และพูดถึงว่า DeSci มีการดูแลการลงทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระยะยาว พร้อมกับการพูดคุยในตลาดเซฟโก้ในช่วงสั้น ๆ ของตลาดเข็มขั้ว เช่นกันกับทิศทางการพัฒนาในอนาคตของเรื่องราวของ DeSci

Forwarded the Original Title: ทางแยกของ DeSci: กลับสู่ค่าความคิดเดิมหรือการตามหามีม?

การตกลง DeSci เพิ่งเริ่มต้น

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน Paul Kohlhaas ผู้ก่อตั้ง BIO Protocol ได้ตอบกลับทวีตของ CZ บนแพลตฟอร์มโซเชียลและกล่าวว่า "Decentralized Science (DeSci) ประสบความสําเร็จในการกระจายสภาพคล่องของเหรียญมีมไปยังมหาวิทยาลัยและห้องปฏิบัติการทั่วโลกเพื่อสนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง" ปรากฏการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง: การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ซึ่งมีลักษณะดั้งเดิมคือความเข้มงวดและความมุ่งมั่นในระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์สามารถตัดกับตลาด crypto ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้สําเร็จได้อย่างไร?

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางการแพทย์ต้องใช้เงินลงทุนจํานวนมากโดยปกติจะวัดเป็นปีหรือสิบปี สิ่งนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับวัฒนธรรม "ผลตอบแทนทันที" ของตลาดในปัจจุบัน เหตุใดวิทยาศาสตร์การกระจายอํานาจจึงกลายเป็นประเด็นร้อนในเดือนพฤศจิกายน เป็นเพราะการปรับฐานของตลาดที่เกิดจากความเชื่อมั่นของมีมถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์หรือไม่? หรือ Decentralized Science เป็นเพียงเทรนด์มีมใหม่ที่ปิดบังอยู่ในหน้ากากของการเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติผ่านการวิจัยหรือไม่? บทความนี้จะตรวจสอบรูปแบบธุรกิจและทิศทางการพัฒนาของ Bio Protocol และ Pump.Science เพื่อสํารวจความต้องการที่แท้จริงสําหรับ DeSci เงื่อนไขที่สามารถสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและศักยภาพในการพัฒนาในระยะยาว

การแยกวิเคราะห์รายได้จากโมเดลธุรกิจโปรโตคอลชีววิธี

สิ่งที่เป็นสาเหตุตัวแรกของนิเวศวิทยา DeSci คือ Bio Protocol ในวันที่ 8 พฤศจิกายน บินานซ์ได้เสร็จสิ้นการเงินระดับกลยุทธ์สำหรับ BIO แต่รอบและจำนวนไม่ได้ประกาศ เนื่องจากสิ่งนี้ BIO ได้เริ่มการเข้าร่วมกับชุมชน BIO Genesis เพื่อสร้างกองทุนจำนวน 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน BIO มี 7 DAOs ที่ใช้งานอยู่การวิจัยเกี่ยวกับอายุยืนและสุขภาพการรักษาผมร่วงสุขภาพสมอง ควรสังเกตว่า BioDAO ไม่ได้อ้างถึงทีมวิจัยในทิศทางที่แน่นอนเช่นอายุยืนและการติดตามสุขภาพ แต่ควรถือเป็นการดําเนินการเฉพาะของโปรโตคอล BIO ทําไมฉันถึงพูดแบบนี้? โปรดดูแผนที่รูปแบบธุรกิจ BIO Protocol ด้านบน พูดง่ายๆ ก็คือ BIO ประกอบด้วย Launchpad ที่ซ้อนกัน การปักหลักที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ สิ่งจูงใจ และ Launchpad ในตัวที่เปิดใช้งานการขยายเศษส่วนได้ไม่จํากัด BIO ประกอบด้วยส่วนประกอบที่เชื่อมต่อกันทั้งสี่นี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนแรก โครงการเปิดตัว BioDAOs, BioDAO สามารถระดมทุนผ่านการขายโทเค็นและใช้ทุนเพื่อสนับสนุนโครงการไบโอเทคที่เกี่ยวข้อง แต่ละ BioDAO ยังสามารถมองเป็น Launchpad ได้เช่นกัน ซึ่งจะพูดถึงในส่วนที่สี่

ส่วนที่สองคือกลไกการ stake ของ BIO ภายใต้เครื่องหมายของการคัดเลือก โทเค็นของผู้ใช้ถูกล็อคไว้ จากหน้าหน้าการปกครองและการเสนอข้อเสนอ มันเป็นชัดเจนว่าอัตราการ stake ปกคลุมโดยทั่วไปของ BIO อยู่ที่ร้อยละ 15 แต่เมื่อลงคะแนนเสียงเพื่อสร้าง BioDAO ใหม่ อัตราการ stake เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ การ stake ไม่ได้ให้ผลตอบแทนโดยตรง แต่แทนที่นั้น ผู้ใช้ที่ stake บน BioDAO ที่ชนะการเลือกได้รับรางวัลโทเคน BIO หาก BioDAO ที่พวกเขาลงคะแนนเสียงไม่ได้รับการเลือก ก็ไม่มีรางวัล การคัดเลือกเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับ BIO เพื่อล็อคโทเคนของผู้ใช้ เมื่อ BioDAO ใหม่ถูกเปิดตัว มูลค่าที่เป็นผลลัพธ์ของมันสูงกว่ารางวัลที่ออกโดย BIO

ส่วนที่สามเป็นกรณีการใช้งานหลักของโทเค็น BIO: สิ่งจูงใจ สิ่งจูงใจแบ่งออกเป็นสองส่วน พื้นที่แรกสําหรับ BioDAOs ที่เข้าร่วม เมื่อพวกเขาเปิดตัวการขายโทเค็นเริ่มต้น BIO จะออกสิ่งจูงใจ สําหรับผู้ใช้สิ่งจูงใจจะออกหากพวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์ของ BioDAO หรือมีส่วนร่วมบางอย่างกับ BioDAO อย่างไรก็ตามจํานวนโทเค็นที่ออกเป็นสิ่งจูงใจในปัจจุบันดูเหมือนจะเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมสิ่งนี้ช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่นการเข้าร่วมการทดลองยาในอุตสาหกรรมดั้งเดิมมีราคาแพงมากในขณะที่ BIO ออกสิ่งจูงใจในรูปแบบของโทเค็น BIO

ส่วนที่สี่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวแบบฟรักทัล แต่ละ BioDAO สามารถมองเห็นได้เป็น Sub-Launchpad เมื่อ BioDAO เลือกทีมหรือหัวข้อวิจัยเฉพาะ ระดมทุน และออกโทเค็นทรัพย์สินบัญชีหรือ IP NFTs ผู้ถือสิทธิ์ทรัพย์สินเหล่านี้ได้รับสัญญาว่าจะมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมตั้งแต่เร็วๆ แต่ไม่มีการรับรองใดๆ ในรูปแบบของผลตอบแทนเพิ่มเติม

จากมุมมองของรูปแบบธุรกิจ BIO ยังคงดําเนินการโดยใช้วิธีการในอุตสาหกรรมที่คุ้นเคย แต่คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันอยู่ใน Launchpad ที่ซ้อนกันอยู่ภายในโครงสร้าง Launchpad เนื่องจากโครงการวิจัยเฉพาะออกโทเค็นหรือสินทรัพย์ NFT การขาดแคลนสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อโทเค็น BioDAO ก่อน ในขณะเดียวกันโทเค็น BIO ทําหน้าที่เป็นชั้นของการประกันภัย มูลค่าของมันจะอยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ต่อเมื่อโทเค็น BioDAO หลายตัวพบปัญหา ในขณะเดียวกันประโยชน์ของการออกสินทรัพย์โดยโครงการวิจัยเฉพาะจะสะท้อนถึง BIO อย่างเต็มที่เนื่องจากดึงดูดผู้ใช้ให้ซื้อโทเค็น BIO และมีส่วนร่วมในระบบนิเวศมากขึ้น คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือเหตุผลของ "การมีส่วนร่วมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์" เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้เดิมพันโทเค็นโดยไม่จําเป็นต้องให้ผลตอบแทนโดยตรง ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นมาจากโทเค็น BioDAO หรือโครงการวิจัยเฉพาะทําให้ BIO สามารถล็อคโทเค็นผู้ใช้ในระยะยาวด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด BIO ทําหน้าที่เป็นโทเค็นดัชนีที่ครอบคลุมโทเค็น DAO เหล่านี้ทั้งหมด

Pump.Science ยังไงทำให้เส้นทางภายใน DeSci และ Memecoins กลายเป็นภาพลวงตา?

Molecule เป็นโปรโตคอลสำหรับการนำทรัพย์สินทางปัญญา (IP) มาต่อเชื่อมกับโซ่บล็อกเชน รับผิดชอบในการออก IP-NFTs และ IPTs สำหรับ Bio Protocol ซึ่ง Pump.Science เป็น Launchpad ของ Molecule ที่จะทำ Tokenize สิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับสารประกอบที่เฉพาะเจาะจงในรูปแบบโทเค็น

Pump.Science ให้เหตุผลว่าไม่เหมือนกับการซื้อหุ้นใน บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพซึ่งเท่ากับการเป็นเจ้าของพอร์ตโฟลิโอยาทั้งหมดของ บริษัท แพลตฟอร์มของมันช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในยาตัวเดียวได้ โทเค็นที่ออกใน Pump.Science เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมาย แต่มีเพียงสารประกอบสังเคราะห์เท่านั้นที่สามารถโทเค็นได้ไม่ใช่สารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นนิโคติน อย่างไรก็ตามหากนิโคตินรวมกับสารอื่นเช่นคาเฟอีนการรวมกันนั้นสามารถจดสิทธิบัตรได้ วิธีการของ Pump.Science เกี่ยวข้องกับการจดสิทธิบัตรหรือข้อมูลเหล่านี้และทดสอบประสิทธิภาพ

Pump.Science ได้เปิดตัวสองโทเค็นจากการถ่ายทอดเทคโนโลยี นั่นคือ $RIF และ $URO ส่วนมูลค่าตลาดของ $RIF ได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์แล้ว โทเค็นเหล่านี้แทนสารเคมีที่สามารถพัฒนาเป็นอาหารเสริมและสร้างรายได้ผ่านการขายหรืออนุญาตสิทธิบัตร ในการดึงดูดนักลงทุนเพิ่มเติม Molecule พัฒนาชุดข้อมูลเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสารเคมีเหล่านี้ เช่นการแสดงให้เห็นถึงอายุขัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการทดสอบกับสัตว์

อย่างไรก็ตาม Pump.Science มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงหรือไม่? หลักฐานชี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่นมากขึ้น เมื่อคริสต์มาสใกล้เข้ามา Pump.Science วางแผนที่จะจัดงาน "Rif Christmas" โดยเปิดตัวโทเค็นสองโทเค็นต่อวันเป็นเวลาสิบวันโดยปล่อยโทเค็นผสมสังเคราะห์ 20 โทเค็นในเดือนธันวาคมเพียงอย่างเดียว ในขณะที่แพลตฟอร์มอ้างว่าจะค่อยๆเปิดเผยเส้นทางการพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวไปสู่การทดลองในมนุษย์และแม้กระทั่งสร้างตลาดผลิตภัณฑ์สําหรับอาหารเสริมต่างๆความเป็นจริงที่เป็นไปได้คือโทเค็น 20 เหล่านี้ส่วนใหญ่จะสูญเสียมูลค่าตลาดทั้งหมดนานก่อนที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เกี่ยวข้องจะออกสู่ตลาด

จากมุมมองของการตามแนวโน้มของตลาด Pump.Science กำลังก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยมีแผนที่จะสร้างบอท AI ที่ซื้อขายโดยอ้างอิงผลของการทดลองรวมและดำเนินการตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ในขั้นต่างๆ

กลับไปที่หัวข้อหลัก: DeSci ควรมุ่งเน้นไปที่คุณค่าที่แท้จริงหรือไล่ตามเทรนด์มีมต่อไปหรือไม่? จากรูปแบบธุรกิจและทิศทางการพัฒนาของ Bio Protocol และ Pump.Science เห็นได้ชัดว่าไม่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในขณะที่หลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเสนอ memecoins นี่อาจเป็นหนึ่งในเส้นทางในอนาคตที่เป็นไปได้สําหรับโปรโตคอล DeSci อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน: การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องยึดมั่นในพื้นฐานและกฎวัตถุประสงค์ การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพต้องใช้เงินทุนระยะยาวและจํานวนมากทําให้การเก็งกําไรระยะสั้นกับ memecoins ไม่ยั่งยืน นอกจากนี้การพึ่งพา memecoin เดียวไม่ใช่รูปแบบการพัฒนาที่ทํางานได้สําหรับโปรโตคอล DeSci

การลงทุนใน DeSci tokens ต้องใช้ความอดทนในเรื่องเล่าที่อาจขาดความสนใจในตอนแรก DeSci ต้องใช้โมเดลโทเคนแบบ VC เพื่อเพิ่มมูลค่า ปรับปรุงค่าความรู้สึกในโครงการชั้นนำ และปล่อยสัญญาณผ่านตัวบ่งชี้ได้ตลอดเวลา เนื่องจากการรับรู้ตลาดของ DeSci ต่ำกว่า AI จึงต้องใช้สัญญาณอำนาจมากขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจและเห็นด้วยกันในตลาด

ในเชิงกลยุทธ์การตลาดที่เฉพาะเจาะจง (GTM) DeSci สามารถแบ่งเป็นหลายหมวดหมู่: การระดมทุน, การวิจัย, ข้อมูล, การตรวจทานจากเพื่อนร่วมงาน, การเผยแพร่, โครงสร้างพื้นฐานและบริการ, ศิลปะ, ระบบนิเวศวิทยาเปิด, และการสร้างชุมชน ควรเลือกพื้นที่ที่สอดคล้องกับความเข้าใจของตนเองหรือมีอุปสรรค์ที่ต่ำเมื่อนำไปปฏิบัติ

นอกจากนี้ โมเดลของ DeSci มีลักษณะฟรักทัลเอง - แต่ละหัวข้อวิจัยสามารถทำหน้าที่เป็นโทเค็นย่อยได้ โครงการขนาดใหญ่สามารถสนับสนุนโครงการขนาดเล็กๆ โดยใช้เงินทุนร่วมกันแบบ web3 เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยในโลกจริง โครงการเหล่านี้สามารถเป็นตัวอย่างปฏิบัติในการใช้งาน DeSci ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความไม่แน่นอนและอัตราการล้มเหลวสูงของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เชิงนี้เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ

ตลาดต้องการตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงมากมายของ DeSci ที่สร้างผลกระทบเพื่อสร้างฉันทามติ และกระบวนการนี้จะใช้เวลามากกว่าการเล่าเรื่อง AI ChatGPT เปิดตัวเมื่อปลายปี 2022 และภายในปี 2023 การเก็งกําไรในพื้นที่ crypto เริ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม DeSci จะต้องมีไทม์ไลน์ที่ยาวขึ้น จากมุมมองอื่นแม้ว่าความล่าช้านี้จะล้างอุปสรรคบางอย่างสําหรับ DeSci การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI ได้เตรียมผู้คนให้พร้อมโดยไม่รู้ตัวเพื่อยอมรับความเป็นไปได้ของสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้กลายเป็นความจริงทําให้ความคิดริเริ่มเช่นวิทยาศาสตร์อายุยืนของ VitaDAO ไม่ใช่ความฝันที่ห่างไกลอีกต่อไป โดยสรุปฉันเชื่อว่าฉันทามติเกี่ยวกับ DeSci เพิ่งเริ่มต้น มันต้องมีการพัฒนาในระยะยาวและเราควรเตรียมพร้อมสําหรับการเล่าเรื่องนี้เพื่อเริ่มต้นอย่างเต็มที่ในตลาดกระทิงครั้งต่อไปเท่านั้น

คำประกาศ

  1. บทความนี้ถูกเผยแพร่จาก [ TechFlow]. ส่งต่อชื่อเรื่องต้นฉบับ: ทางแยกของ DeSci: กลับสู่ค่าความหรือตามล่ามีม? ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนเรื่องต้นฉบับ [Kevin, นักวิจัยจาก BlockBooster]. หากคุณมีข้อความที่คุณไม่เห็นด้วยในการนำเผยแพร่ กรุณาติดต่อ เกตเรียนทีมจะดำเนินการให้เร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
  2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงถึงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดขึ้นเป็นการแนะนำในการลงทุนใด ๆ
  3. เวอร์ชันภาษาอื่นของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn นอกเหนือจากนี้ บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถคัดลอก กระจาย หรือลอกเลียน
Розпочати зараз
Зареєструйтеся та отримайте ваучер на
$100
!