TL;DR

ในตลาดคริปโตปัจจุบัน เมื่อความตื่นเต้นทางมีมจางหายไป นักลงทุนมากมายพบว่าตัวเองหลง

Sonic—a new blockchain led by Fantom founder Andre Cronje (AC)—is emerging as the new focal point in the DeFi space.

ด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพอย่างครอบคลุม สิทธิการแจกจ่ายโบนัส 6% และการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งของ AC ในการพัฒนานิเวศ ซอนิคไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ประกอบการมากมาย แต่ยังเริ่มเปิดกระแสตลาสในตลาดสำหรับ DeFi อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองกลับไปที่การออกไปอย่างกะทันหันของ AC จาก Fantom ตลาดยังคงสงสัยในอนาคตของ Sonic อยู่

นี่เป็นไวน์เก่าในขวดใหม่เพียงอย่างเดียวหรือนวัตกรรมที่แท้จริง? ให้เรามาสำรวจศักยภาพและอนาคตของ Sonic ผ่านมุมมองของ DeFi KOL ชื่อเสียง Chen Mo ( @cmdefi) และนักวิจัย Da Pang Dun (@DaPangDunCrypto.

การเติบโตของ Sonic สามารถกลายเป็นการโต้แท้ที่ฟื้นฟู DeFi และนำเข้าเซียนสู่วัยทองถัดไปได้หรือไม่?

ด้านล่างคือบันทึกข้อความจากการสนทนาของเรา และเสียงพอดคาสต์ก็มีให้ฟังได้ด้วยค่ะ:

ลิงค์ Xiaoyuzhou:
https://www.xiaoyuzhoufm.com/episode/67cc4aad0766616acd85c5d9

ลิงค์ Spotify:
https://open.spotify.com/episode/2CBKjBOyNhkYKpImohvRSP?si=DeUjwfUORwexH2TQIRn1-g

TechFlow: ก่อนอื่น คุณสองท่านสามารถแนะนำตัวเองได้หรือเปล่าคะ?

Da Pang Dun:

สวัสดีทุกคน ฉันชื่อดา ปัง ดัน เข้าสู่วงการนี้ในรอบที่แล้ว และได้ลงทุนทั้งหมดในสกุลเงินดิจิตอลในรอบนี้ ฉันใช้เวลาในการศึกษาด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจกฟรี, มีม, หรือระบบนิเวศต่าง ๆ ที่ฉันชอบ—ฉันมีส่วนร่วมในทุกอย่าง

Chen Mo:

สวัสดีทุกคน ฉันคือ เฉิน โม หลังจากการวิจัยและลงทุนใน DeFi ตั้งแต่ปี 2020 ในรอบล่าสุด ฉันได้มีส่วนร่วมในระบบ Fantom และมีความสัมพันธ์กับผู้ก่อตั้ง Andre Cronje (AC) อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นการเห็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ Sonic หลังจากเปิดตัวทำให้ฉันมีความสุขมาก

เทคโฟลว์: เฉิน โม คุณเคยเกี่ยวข้องกับนิเวศ Fantom ในรอบที่แล้ว คุณว่า Fantom เวลานั้นเปรียบเทียบกับ Sonic ตอนนี้อย่างไร

Chen Mo:

การอัพเกรดหลักของ Sonic คือประสิทธิภาพ ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือ มันเร็วกว่า มี TPS สูงกว่า และรองรับการทำงานแบบขนาน แน่นอนว่าผู้ใช้อาจจะไม่ได้สนใจเทคนิคเหล่านี้มากนัก

จากมุมมองของผู้ใช้ ความแตกต่างที่สำคัญคือ ความร่วมมือระดับสูงของ AC เมื่อเปรียบเทียบกับวงจรล่าสุด ในขณะที่ AI และ Meme ทำให้ส่วน DeFi อ่อนแอลง และ AC ไม่ได้เป็น "ดัง" เหมือนเดิม เขาเคยเด่นขึ้นมาเป็นผู้นำ สร้างพื้นฐานสำหรับนิเวศน์ AC ตอนนี้ไม่มีภาระของไอดอลแล้ว - เขาพร้อมที่จะมีส่วนร่วมและสนับสนุนโครงการในนิเวศน์ สิ่งนี้ทำให้ฉันนึกถึง Solana Foundation ที่นำชุมชนไปข้างหน้าร่วมกัน ประเภทนี้ของการนำนำเป็นข้อได้เปรียบของ Sonic

ดังนั้น ในวงจรที่ DeFi ไม่ได้เป็นหลัก ฉันหวังว่าจะเห็นโครงการที่เป็นจุดเด่นที่ดึงดูดคนมาสู่ DeFi

TechFlow: Da Pang Dun, คุณเพียงเข้าร่วมรอบนี้เท่านั้น และฉันเห็นคุณเผยแพร่บทความวิจัยเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับ Sonic โดยชี้แจงว่ามันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

Da Pang Dun:

ฉันเคยให้ความสำคัญกับนิเวศ BTC และภายหลังก็เป็นเหรียญ Meme บน Solana ดังนั้นทำไมฉันกลับมาสนใจ Sonic อย่างกะทันหัน? ฉันเชื่อว่าขณะนี้เราอยู่ในช่องว่างของนาร์ราทีฟ หลังจากคลื่น AI มีผลต่อมากมายที่รู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคต—ไม่ใช่เพราะ AI ไม่ดี แต่เพราะนาร์ราทีฟของมันดูเหมือนถูกปฏิเสธในวงจรนี้ ในขณะเดียวกันหลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ คนได้กลายเป็นมีความระมัดระวังเกี่ยวกับเหรียญ Meme ตลาดหลงไหล

อย่างไรก็ตาม crypto ต้องการการเล่าเรื่องเสมอ นั่นคือตอนที่ฉันค้นพบโซนิค ในฐานะผู้มาใหม่ DeFi รู้สึกเหมือนโลกใหม่ได้เปิดขึ้นสําหรับฉัน มันแตกต่างจากทั้งตลาดหลักและตลาดรองซึ่งต้องใช้การคํานวณจํานวนมาก ซึ่งแตกต่างจากเหรียญ Meme โอกาส DeFi ไม่ได้ "โหดร้าย" แต่วงจรชีวิตของพวกเขาก็ไม่สั้นเช่นกัน DeFi เป็นไปตามโมเดลที่เป็นผู้ใหญ่และความเสถียรคือสิ่งที่ฉันต้องการ

เหตุผลอีกอย่างคือ Andre Cronje โดยฉันไม่ได้มีส่วนสมรู้ร่วมในระบบ Fantom ดังนั้นฉันไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการ ออกไปของ AC ค่ะ สำหรับฉันเขารู้สึกเหมือนกับ Toly ของ Solana—นักการตลาดสำหรับระบบนี้ ไม่ว่าโครงการจะดีหรือไม่ ขอแค่มีความคุ้มค่าเขาก็จะสนับสนุน ในช่องว่างนี้ ตลาดขาดคนที่เหมาะสมเหมือน AC ที่สามารถสั่นสะท้านสิ่งต่างๆ อีกด้วย Sonic Labs ก็มีกิจกรรมที่ค่อนข้างคล่องแคล่ว และเครือข่าย Sonic ได้รับการอัพเกรดที่สำคัญ ทำให้ฉันอยากจะเข้าร่วมระบบนี้มากขึ้น

TechFlow: ดังนั้น คุณเชื่อมั่นใน Sonic เพราะ: มีช่องว่างของนาร์ราทีฟ, ดีไฟเป็นเกมระยะยาว, และ AC ได้เป็นผู้นำในการสร้างนิเวศน์ อนาคต ขอขยายคำถามนี้—บล็อกเชนหลายรายมีนิเวศน์ดีไฟอยู่แล้ว ทำไมคุณมุ่งมั่นกับ Sonic มากกว่า?

Da Pang Dun:

เริ่มแรก Sonic เป็นบล็อกเชนใหม่ที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง ที่สอง เพื่อเร่งความเจริญเติบโต Sonic ได้สัญญาที่จะมีการแจกจ่ายแอร์ดรอปประมาณ 6%—สิ่งหนึ่งที่พบได้น้อยในระบบ DeFi ที่สร้างเสริมแล้ว ในที่สุด Sonic มีการเข้ามาของสถาบันต่ำ ทำให้รู้สึกเป็นเอกชนและเหมาะสำหรับสตาร์ทอัพมากขึ้น

เทคโฟ: เมื่อเร็ว ๆ นี้ Berachain ได้เปิดตัว PoL ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับพวกเขา ในขณะเดียวกัน ตัวเลือกหลายรายการที่ได้รับการสนับสนุนจากทุนการลงทุนทางเอกชน เช่น $KAITO, $IP และ $BERA ได้มีประสิทธิภาพดี Berachain ยังให้ความสำคัญกับ DeFi ดังนั้นจากมุมมองของ DeFi คุณเปรียบเทียบ Berachain กับ Sonic อย่างไร

Chen Mo:

ฉันมีส่วนร่วมในทั้งสองระบบ โดยสรุปฉันคิดว่า Sonic มีโอกาสมากกว่า Berachain Sonic เป็นระบบที่เน้นที่มาจากฐานล่าง ในขณะที่ Berachain มีการระดมทุนมากมายและมีการสนับสนุนจากสถาบันอย่างเป็นทางการ โดยมีโครงการมากมายที่ร่วมมือกับทีมอย่างเป็นทางการ พวกเขามีวิธีการที่แตกต่างกัน Sonic เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมกับนักประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง และ AC ช่วยเหลือโครงการที่ช่วยลดความเสี่ยงของ RUG อย่างเชิงเส้น

นอกจากนี้ Berachain แจกจ่ายคะแนนผ่าน staking ในขณะที่ Sonic ใช้ liquidity mining—ทำให้มันน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อย โดยที่เมื่อ TVL เพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมและรางวัลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาโทเค็นเพิ่มขึ้น ซึ่งในที่สุดส่งผลให้ TVL เพิ่มขึ้นต่อไป สร้างสรรค์วงจรบวกแบบ Ponzi ที่ทำให้คนรู้สึกว่ากำลังเติบโตพร้อมกับโครงการ Shadow ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ ก็สร้าง TVL ขึ้นเรื่อย ๆ

ในทวีปเอเชีย โครงการที่ใช้แต้มตั้งใจในการเกิดเหตุของผู้ใช้ต้องฝากเงินล่วงหน้าและรอ TGE เพื่อรับผลตอบแทน มีผู้คนมากมายที่ตรวจสอบ TGE อย่างต่อเนื่อง คำนวณราคาโทเค็นที่พวกเขาต้องการที่จะทำกำไร สูญเสียความรู้สึกในการเติบโตกับโครงการ นี้คือพลวัตของสองอย่าง โครงการที่ใช้แต้มเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนมากและมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงในขณะที่ Sonic มีโอกาสทางอัลฟาที่ใหญ่กว่า คุณสามารถเรียกมันว่าย้อนยุค แต่ฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในตลาดปัจจุบัน คนมักจะรอไม่ได้มุ่งหมายเฉพาะทางไปที่กำไรเท่านั้น ขณะที่ละทิ้งการเดินทางในการเติบโตกับโครงการ

นอกจากนี้ การขุดเหมือง Likelihood ถูกวิจารณ์อย่างบ่อยว่าไม่ยั่งยืน ความท้าทายที่ไม่มีกลไกที่มีอยู่แบบเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม Sonic ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกับผู้ใช้

TechFlow: คุณกล่าวถึงการอัปเกรดของ Sonic มีส่วนสำคัญด้านเทคนิคมาก่อน คุณสามารถอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับกลไก (3,3) และว่า Sonic (3,3) ในรอบนี้แตกต่างจาก Fantom (3,3) ในอดีตอย่างไรบ้างได้หรือไม่?

Chen Mo:

ตัวเลขเริ่มต้น (3,3) มาจาก OHM (OlympusDAO) กลไกเริ่มต้นเป็นเรื่องง่าย: หากทั้งสองฝ่ายถือครอง มันเป็นสถานะสมดุล (1,1); หากทั้งสองฝ่ายลงทุน มันเป็นสถานะบวก (3,3); และหากทั้งสองฝ่ายขาย มันเป็นการลงอย่างลงมา (-3,-3) - นี้เป็นตามหลักการทฤษฎีเกม

AC ผสมโมเดล veToken กับโมเดล (3,3) เข้าด้วยกันเพื่อสร้าง ve(3,3) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้พลังโหวตเพื่อตัดสินใจว่าสระว่ายน้ำใดจะได้รับสิทธิส่งเสริม ในขณะที่ผู้โหวตสามารถรับผลตอบแทนจริง เช่นค่าธรรมเนียมจากสระที่รองรับ

Shadow’s x(3,3) เป็นเวอร์ชันที่ถูกปรับแต่งให้ดีขึ้นของ ve(3,3) ตัวเดิม veToken นั้นยากต่อการซื้อขาย—เมื่อล็อคแล้ว คุณจะต้องอยู่ในนั้นในระยะยาว x(3,3) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออกไปก่อนแต่ต้องสละ 50% ของรายได้ให้กับผู้ที่เหลืออยู่ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ให้กลยุทธ์การออกสำหรับผู้ที่ต้องการออกในขณะที่ยังเพิ่มรางวัลสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในระบบ

เทคโฟลว์:

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ดูเหมือนจะอธิบายเหตุผลที่ Shadow โดดเด่น แต่ระบบ Sonic ทั้งหมดกำลังดำเนินงานอย่างดีอย่างพิเศษ มันเป็นเพราะ Shadow ได้กระตุ้นความกระตุ้นหรือเป็นเพราะค่ามูลค่าที่แท้จริงของ $S? มีโครงการนวัตกรรมอื่น ๆ ในระบบ Sonic หรือไม่?

Chen Mo:

ระบบนิวเคลียร์โซนิคประกอบด้วยนวัตกรรมขนาดเล็กๆ เช่น Shadow โดยมองที่จำนวนเงินที่ลงทุนเข้ามา (TVL) เราพบว่ามีการนำเงินทุนเข้ามาอย่างมากมาย โครงการมากมายที่ต่อต้านในระบบอื่นได้เข้าร่วมโซนิคเนื่องจากมีการสนับสนุน นำเสนอความเป็นเหลือ โดยนำเงินทุนมาด้วย วิธีนี้ในการได้รับผู้ใช้ด้วยเงินจริงคล้ายกับ DeFi ตั้งแต่ DeFi ไม่มีกิจกรรมมากนักในรอบนี้ หลายกลไกเก่าตอนนี้รู้สึกแปลกใจ

โดยรวมเมื่อ Sonic ให้สิทธิและส่วนลดในรูปแบบโทเค็น TVL ของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างหฤโหด ในเชิงนวัตกรรม ฉันเชื่อว่า Shadow เป็นที่โดดเด่นที่สุด

Da Pang Dun:

ตอนนี้ Shadow อยู่ในระดับของตัวเอง สำหรับหลายๆ คนในระบบ Sonic จุดมุ่งหลักคือการได้รับเหรียญแอร์ดรอบ 6% แอร์ดรอบนี้เป้าหมายทั้งผู้ใช้ทั่วไปและทีมโครงการ อย่างไรก็ตาม โครงการหลายๆ รายได้แจกแอร์ดรอบเหล่านี้ให้กับผู้ใช้ หมายความว่าผู้ใช้จริงๆ สามารถได้รับแอร์ดรอบ 2 รอบ ซึ่งเป็นที่กระตุ้นส่วนร่วมอีกต่อไป

อันที่สอง, เช่นที่เฉิน โม่กล่าวถึง, มีคนมากมายที่ไม่เคยมีส่วนร่วมกับ DeFi มาก่อน ในช่องว่างเรื่องราวนี้, DeFi ได้เริ่มให้ความกระตุ้นให้คนสนใจในการวิจัยอีกครั้ง

สุดท้ายฉันอยากรู้วิสัยทานของ AC โครงการ DeFi ทุกโครงการต้องเผชิญกับคำถาม: วัตถุประสงค์สุดท้ายคืออะไร? นอกจากการลงทะเบียนในตลาด ยังมีทางออกอื่น ๆ ให้เลือกหรือไม่? เมื่อเปรียบเทียบกับการเงินแบบดั้งเดิม DeFi มอบผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ Sonic กำลังทำงานกับกระเป๋าเงินแบบนามธรรมและผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง และ AC ได้แสดงความพร้อมที่จะดำเนินกิจการภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ นี้ทำให้ฉันสงสัยว่าวัตถุประสงค์ของ AC คือการรวม DeFi เข้าสู่ Web2—อย่างที่เคยว่ากัน ใน Web3 ผู้ใช้มักจะลอง GameFi มากกว่าการเล่นเกมแบบดั้งเดิม โดยการทำกำไรเป็นแรงจูงใจหลัก

เทคโฟว์: นี้นำเรามาสู่หัวข้อถัดไปของเรา คนกำลังเล่นในระบบ Sonic เพราะพวกเขายังเห็นศักยภาพในเรื่องกำไร คุณมองตัวชี้วัดอย่างไร เช่น ยอดครองตลาด / TVL, และในระยะที่ ve(3,3) เราควรระมัดระวัง? ควรระวังอะไรที่ TGE?

Chen Mo:

ใน Sonic, ฉันเน้นไปที่ DeFi เป็นจุดแข็งที่สุดของมัน เหมือนกับว่าความแข็งแกร่งของ Solana อยู่ที่ Meme coins และเมื่อ Meme coins ปรุงรุก Solana จะไม่ลดลง Sonic's วิถีเหมือน Solana รุ่นแรก ที่ airdrop ทำหน้าที่เป็นจุดเข้าใช้ ส่วนต่อไปเกี่ยวกับศักยภาพในระยะยาวของ Sonic ขึ้นอยู่กับเส้นทางการเคลื่อนไหวที่ยั่งยืนของ DeFi

ve(3,3) แตกต่างจาก (3,3) โดยไม่มีความเสี่ยงในเชิงทฤษฎีว่าจะมีความเสี่ยงในการล่ม—และด้วยสิ่งแรงจูงใจที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ ในระหว่างนี้โมเดลของจุดมักจะเหนื่อยกับความตื่นเต้นที่ TGE ในทวีค่านี้ Sonic ตามโมเดลการเจริญเติบโตช้า ๆ ของ Fantom ซึ่งอาจสร้างโปรเจกต์ต์ตำนานเช่น OlympusDAO หรือ Luna ในที่สุด

ในที่สุด จะต้องมีองค์ประกอบที่ดึงดูดความสนใจ—เช่นเดียวกับผู้คนที่เชื่อมต่อเหรียญ Meme กับ Solana พวกเขาควรคิดถึง Sonic ก่อนเสมอเมื่อมองหาโอกาสทางด้าน DeFi หากเกิดเช่นนั้น นั้นจะเป็นความสำเร็จที่สำคัญ นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญของ AC อยู่ที่ DeFi และเขาเป็นคนแรกที่เสนอแนวคิดหลายอย่าง เช่น ve(3,3) ฉันหวังว่าจะเห็นว่า AC ระบุสิ่งที่สำคัญของยุคนี้ หากเขาทำถูก ฟ้าผ่า Sonic อาจสูงมาก

TechFlow: เมื่อพูดถึงโครงการตำนาน มีข่าวอย่างมากเกี่ยวกับ Super.exchange ในช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณใดเคยเข้าร่วมโครงการนี้บ้างหรือไม่?

Da Pang Dun:

ฉันเริ่มเล่นกับ Super.exchange ตั้งแต่ต้น และสิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากที่สุดคือ: ความเข้าใจในตรรกะของโครงการเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญ โมเดลของ Super.exchange พึ่งพากับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม DEX เพื่อซื้อคืนและเผาโทเค็น กลไกที่คล้ายกับ "เหมืองแร่การซื้อขาย" ทุนสำหรับการซื้อคืนและเผาโทเค็นมาจากปริมาณการซื้อขายบนตลาดซื้อขายภายนอก ดังนั้น ปริมาณการซื้อขายภายนอกจะต้องคงที่สูง มิฉะนั้น ปริมาณการซื้อคืนจะลดลง ทำให้ราคาโทเค็นที่จะขึ้นยากขึ้น แต่มีปัญหาสองปัญหาหลักกับตลาดซื้อขายภายนอก:

1. ถึงแม้ว่าจำนวน token ทั้งหมดเกือบ 60% ได้ถูกเผาไปแล้ว แต่การแลกเปลี่ยนภายนอกยังคำนวณ FDV จากการสร้างเริ่มต้น 1 พันล้าน ทำให้นักลงทุนร้านค้าทั่วไปคิดผิดว่า FDV สูงเกินไปและไม่เต็มใจที่จะซื้อเข้ามา
2. สระเงินสดบนตลาดหลายแห่งถูกสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ และทีมงานโครงการไม่สามารถควบคุมได้

นอกจากนี้ นักลงทุนในช่วงแรกอาจพบกำไรสูง แต่เนื่องจากการผันแปรของตลาดและการลดลงของปริมาตรการซื้อขายจากภายนอก ผลตอบแทนที่แท้จริงอาจต่ำกว่าที่คาดหวัง หนึ่งในความสำคัญที่สุดในขณะนี้คือว่าปริมาตรการซื้อขายจากภายนอกสามารถดำเนินไปต่อได้หรือไม่ หากไม่สามารถ กลไกการซื้อคืนและการเผาไหม้จะพยายามทำให้ราคาโทเค็นขึ้น และโครงการจะพบความยากลำบากในการยังอยู่อย่างยาวนาน มีผู้คนมากมายที่ไม่เข้าใจกลไกนี้และอาจเสียเงินไปในท้ายที่สุด

เกี่ยวกับสัญญาณความเสี่ยงที่อยู่ใน DeFi ที่ฉันกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ฉันอยากถามเฉินโม: ทุกโครงการ DeFi มีวงล้อ และบางครั้งปริมาณการซื้อขายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับวงล้อ ฉันควรจะระบุปัจจัยสำคัญเหล่านี้อย่างไร? เมื่อจุดข้อมูลเหล่านี้แสดงปัญหา ควรที่เราจะกังวลหรือไม่?

เฉิน โม:

ความเข้าใจส่วนตัวของฉันคือไม่มีประเด็นที่แน่นอนสําหรับเรื่องนี้ สําหรับบางโครงการที่มีกลไกมู่เล่มีจุดที่จะเริ่มต้นมู่เล่อย่างแน่นอน หากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นช้าลงหรือลดลง ณ จุดนี้ก็ค่อนข้างเสี่ยง ย้อนกลับไปในยุค OHM มู่เล่ที่หยุดอาจเริ่มต้นได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามในวัฏจักรปัจจุบันความสนใจของผู้คนกระจัดกระจายเกินไปและหลังจากมู่เล่หยุดแล้วยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่จะมีส่วนร่วม นอกจากนี้ยังขาดความต้องการที่แท้จริงในการรีสตาร์ทมู่เล่ ในช่วงตลาดกระทิง DeFi ความต้องการสภาพคล่องจํานวนมากเป็นกุญแจสําคัญในการจุดชนวนมู่เล่ แต่ตอนนี้ทีมโครงการไม่กี่ทีมจะสร้างพูลขนาดใหญ่แบบ on-chain และการมี DEX นั้นค่อนข้างต่ํา

TechFlow: คุณพึ่งกล่าวถึงว่า AC กำลังมีการเคลื่อนไหวในเรื่องของความเชื่อถือได้ในสหรัฐอเมริกาเช่นกับ Daniele’s Hey Anon ที่มีคลื่นของการตื่นตาตื่นใจ นอกจาก DeFi ยังมีสาขาหรือโครงการใดในระบบ Sonic ที่คุณมีความเชื่อมั่นบ้างหรือไม่?

Da Pang Dun:

ขนาดเงินทุนของฉันไม่ใหญ่มาก ดังนั้นบางครั้งฉันมองหาโอกาสที่มีโอกาสสูงขึ้น การมีส่วนร่วมของฉันส่วนใหญ่ทำตามวิธีการสามวิธี

1. ค้นหาโครงการใหม่เพื่อเข้าถึงโอกาสแอลฟา แต่ต้องระวังความเสี่ยง RUG อีกด้วย AC ยังกล่าวถึงเมื่อส่งต่อโครงการว่าพวกเขาไม่ทราบว่าโครงการจะดำเนินไปอย่างไร
2. ฉันมอง NFTs ดู มีคนมากมายที่ชอบ NFT ที่มีสิทธิ์ ซึ่งมีคุณสมบัติการโฆษณาทางสังคมที่แข็งแรง แต่ละ NFT มีการออกแบบและต่อท้ายตัวเอง คุณสามารถจินตนาการถึง X Space ที่เต็มไปด้วยอวาตาร์ Derps ซึ่งจะเป็นฉากที่น่าประทับใจมาก นอกจากนี้ ภาพมีโอกาสที่จะทิ้งความประทับใจและมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่แข็งแรงมากกว่า ทีมโครงการยังมีการลดราคาบน NFT เหล่านี้ การเริ่มต้นของฉัน $Shadow ก็คือการแจกจากทีมโครงการ Derps จริงๆ
3. ผลตอบแทนที่มั่นคง ฉันไม่เลือก stablecoin LPs ที่ต้องการยอดขายมาก; แทนที่นั้น ฉันมองหาโอกาสโดยการยึดทรัพย์กับ $S.

TechFlow: ฉันยังได้รับ airdrop ของ $Shadow ผ่าน Derps และฉันคิดว่า NFTs บน Sonic มีลักษณะ DeFi บางอย่าง มันเริ่มต้นด้วยโทเค็น จากนั้นโทเค็นสามารถใช้ซื้ออาหารว่างเพื่อให้อาหาร Derps และในภายหลังคุณสามารถตกแต่งห้องของคุณ โครงการที่คล้ายกันรวมถึง Berps ฯลฯ พวกเขาไม่ใช่โครงการ NFT ที่บริสุทธิ์

Da Pang Dun:

ใช่ NFTs ใน ระบบ Sonic ทุกตัว มีคุณสมบัติ DeFi บ้าง หมด ตามที่ เฉินโม กล่าว ถ้า สิ่งแรกที่ สามารถนึกถึงได้เมื่อคิดถึง DeFi คือ Sonic แล้ว ก็หมายความว่า มันได้สำเร็จแล้ว ใน ระบบ Sonic นั้น โครงการ Meme ที่บริสุทธิ์ยากที่จะสร้าง ทุกอย่าง สามารถถือเป็น คุณสมบัติ DeFi บ้าง หรือ มันยากที่จะได้รับการยอมรับในวงนี้

เทคโฟลว์: ฉันคิดว่าหลังจากคราวการเปลี่ยนแปลงนี้ คนจะไม่สนใจโปรเจกต์แมมอี้อย่างเดียวอีกต่อไป จะต้องมีสิ่งอื่นที่ทำให้พวกเขาน่าสนใจ. เฉินโม, คุณคิดว่าระบบโซนิคมีศักยภาพในด้านที่เกินกว่า DeFi ไหม?

เฉิน โม: ฉันก็ติดตามโครงการ ANON ของ Daniele มาบ้าง ก่อนที่ Sonic จะเริ่มมีความนิยมจริง ๆ ยังมีคลื่นที่เขานำ สิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดก็ยังคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ DeFi รวมถึง DeFAI นอกจากนี้ นอกเหนือจากโครงการใหม่ๆ ก็ไม่มีข้อได้เปรียบมากมาย

TechFlow: โครงการ DeFAI เดียวที่ฉันรู้ใน Sonic คือ Hey Anon โครงการที่คล้ายกันคือ Allora บน Polychain ที่ยังไม่ได้เปิดตัวโทเคนและให้พื้นฐานสำคัญสำหรับ AI

Chen Mo:

ใช่ แต่เฮ้อานนท์ยังไม่ถึงระดับที่สามารถเจาะเข้าไปในกระแสหลักได้ อย่างไรก็ตามอาจยังมีโอกาสในภายหลังเนื่องจาก Daniele ทําสิ่งที่น่าสนใจมากมายในรอบที่แล้ว

เทคโฟว์: เร็ว ๆ นี้ การวิจัย "DeFi+AI" ของ Binance ได้กล่าวถึง Hey Anon บ่อยครั้ง ดังนั้นดูเหมือนว่ามีผู้คนมากขึ้นเริ่มสนใจมัน

ก่อนหน้านี้ในการสนทนา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถึงว่า DeFi เป็นเครื่องบ่งชี้ของ Sonic แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ความสนใจได้ถูกเปลี่ยนทิศทางมาที่ประสิทธิภาพของ Sonic มี Sonic มีประโยชน์จากการแข่งขันที่เป็นเอกลักษณ์ในเรื่องประสิทธิภาพหรือไม่? การเปิดตัวบล็อกเชนใหม่เช่น Monad จะมีผลต่อ Sonic ไหม?

Da Pang Dun:

Monad มีความนิยมมาก มีผู้ใช้กิจกรรมกว่า 4 ล้านคนในไม่กี่วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าสิ่งที่ AC พูดเกี่ยวกับการยืนยันสุดท้ายถูกต้อง ผู้ใช้จริงๆ ไม่สนใจเมตริกเดียว แต่กว่าจะกัดจนเห็นผลลัพธ์หลังจากเริ่มต้นธุรกรรม Sonic มีประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยม

เช่น Arbitrum และ Monad ก็เร็วเช่นกัน และทุกคนก็ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีของตัวเองมานานแล้ว ดังนั้นไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน บล็อกเชนในปัจจุบันไม่เหมือนกับ Ethereum ที่คุณสามารถทำทุกอย่างได้ ฉันคิดว่าบล็อกเชนในยุคปัจจุบันควรเป็น application chains ซึ่งเน้นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงเพียงเท่านั้น Sonic ต้องหาทิศทางของตัวเอง DeFi ในปัจจุบันแตกต่างจากเดิม เราไม่สามารถให้คนคิดว่า DeFi ของ Sonic ล้าสมัยได้ ประสิทธิภาพเป็นเพียงพื้นฐาน แต่แอปพลิเคชันที่มันสนับสนุนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับอนาคต

Chen Mo:

เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ TPS เป็นราชาอีกต่อไปแล้ว ในยุค web3 ยุคโบราณ ไม่มีนิเวศน์เลย ดังนั้นทุกคนก็กลา focus ที่ TPS แต่หลังจากที่ผ่านมาหลายปีของการพัฒนา ตลาดได้มีการ提供 solutuons สำหรับประสิทธิภาพอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเช่น Ethereum L2, offloading performance หรือเช่น Solana การประมวลผลแบบพร้อมด้วย ช่องว่างด้านประสิทธิภาพไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป มันคือนิเวศน์การแข่งขันที่จะกำหนดผู้ชนะ

ข้อความประกัน

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [ เทคโฟลว์],ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [TechFlow], if you have any objection to the reprint, please contact เกตเรียนทีม ทีม จะดำเนินการเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ที่ไม่ได้กล่าวถึงGate, บทความที่แปลอาจไม่นำเผยแพร่ กระจายหรือลอกเลียน