นักขุด Bitcoin กําลังเผชิญกับการทดสอบการอยู่รอดที่สําคัญเนื่องจากต้นทุนการขุดเข้าใกล้ระดับที่ไม่ยั่งยืน เมื่อราคาของ Bitcoin ต่ํากว่าเกณฑ์ค่าไฟฟ้าการปิดเครื่องอาจลดแรงกดดันในการขายและกระตุ้นให้ราคาดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยการเกิดขึ้นของนักขุดรุ่นต่อไปที่มีประสิทธิภาพสูงบทบาทของราคาปิดกําลังเปลี่ยนไป ความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนานว่า "การปิดระบบนําไปสู่การดีดตัว" อาจไม่คงอยู่อีกต่อไป การเคลื่อนไหวของราคาของ Bitcoin จะก่อตัวขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมหภาคและความเชื่อมั่นของตลาด

ลึกลงไปในยามค่ําคืนเสียงครวญครางอย่างไม่หยุดยั้งของเครื่องจักรขุดจะเติมเต็มอากาศเหมือนซิมโฟนีการคํานวณที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในขณะที่ Bitcoin ผันผวนประมาณ $ 85,000 ความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่จับฟาร์มขุดมากกว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องจักรกําลังใกล้จะปิดตัวลงเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างรุนแรง: เผากระแสไฟฟ้าต่อไปเพื่อให้ใช้งานได้หรือลดการสูญเสียและปิดเครื่อง? การต่อสู้เงียบนี้เน้นย้ําถึงกฎพื้นฐานของตลาด crypto นั่นคือราคาปิด เมื่อถูกมองว่าเป็นสัญญาณด้านล่างที่เชื่อถือได้ตอนนี้กําลังถูกท้าทายโดยวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีการขุด Bitcoin ยังสามารถขึ้นอยู่กับราคาปิดเพื่อจัดฉากการกลับมาได้หรือไม่? คําตอบอยู่ที่การต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างประสิทธิภาพการขุดและโครงสร้างต้นทุน

ราคาที่ปิด: เส้นชีวิตของนักขุดบิตคอยน์

ในเศรษฐกิจดิจิทัลของบิทคอยน์, นักขุดเหมืองเป็นสันทนาการหลักโดยขึ้นอยู่กับพลังการคำนวณเพื่อรักษาการทำงานของตน ในขณะที่ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงสำคัญของพวกเขา ราคาที่ต้องการให้หยุดกิจการเหมืองคือเหมืองขัดขวางขั้นต่ำของพวกเขาเมื่อราคาของบิทคอยน์ตกต่ำกว่าเกณฑ์นี้ รายได้จากการขุดเหมืองจะไม่คุ้มค่าค่าไฟฟ้าอีกต่อไป ซึ่งทำให้นักขุดต้องดับไฟรีกของพวกเขา

สูตรคำนวณที่แม่นยำสำหรับราคาการปิด

ราคาที่ปิดการทำงาน = (การบริโภคพลังงานรายวันของตัวคัดแร่ × ราคาไฟฟ้า) ÷ (ประมาณการผลิต Bitcoin รายวัน × ปัจจัยค่าธรรมเนียมของพูลขุด

เช่น เครื่องขุด Antminer S19 ใช้พลังงาน 72 กิโลวัตต์ต่อวัน (ราคาไฟฟ้าที่ 0.06 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) และผลิตประมาณ 0.0002 บิทคอยน์ต่อวัน ซึ่งคำนวณเป็นราคาที่ปิดการกิจการประมาณ 85,000 ดอลลาร์ ซึ่งเข้าอยู่ในช่วงราคาท้องถิ่น นี้ไม่ใช่สิ่งบังเอิญแต่เป็นการสะท้อนถึงการล้มละลายของอุตสาหกรรมถึงกว่าครึ่งของอุตสาหกรรมที่ยืนอยู่บนเส้นขาด

อย่างไรก็ตามราคาปิดระบบไม่เคยเป็นตัวเลขคงที่ มันผันผวนเมื่อนักขุดย้ายไปยังพื้นที่ที่มีไฟฟ้าราคาถูกกว่าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการปรับความยากของ Bitcoin และปรับเปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่องภายใต้ผลกระทบของเครื่องขุดรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับการเต้นรําแบบไดนามิกเมื่อเครื่องเก่าปิดตัวลงแฮชเรตเครือข่ายโดยรวมจะลดลงทําให้ผู้รอดชีวิตมีโอกาสหายใจและฟื้นตัว ทุกสองสัปดาห์การปรับความยากจะทําหน้าที่เหมือนกระบองของตัวนําเพื่อให้แน่ใจว่ามีจังหวะการผลิตบล็อกที่มั่นคง ในขณะเดียวกันนักขุดรุ่นต่อไปเช่น Antminer S21 XP ก็ปรากฏตัวขึ้นโดยลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 35% และเปลี่ยนพื้นฐานต้นทุนของอุตสาหกรรมลง มันเป็นการทํางานร่วมกันของปัจจัยเหล่านี้ที่ทําให้ราคาปิดเป็นเข็มทิศที่ซ่อนอยู่สําหรับการระบุจุดต่ําสุดของตลาด

รหัสประวัติศาสตร์: ราคาปิดตลาดและบทบาทในการสะท้อนกลับของบิทคอยน์

สำรวจบันทึกประวัติของ Bitcoin จะพบว่าราคาที่ถูกหยุดนั้นเหมือนเป็นไฟไหม้ที่ซ่อนอยู่ - ทุกครั้งที่ราคาของ Bitcoin สัมผัสจุดความสูงนี้ ตลาดจะพบจุดที่เปลี่ยนแปลง

ธันวาคม 2018

• บิทคอยน์ ตกราจาก $20,000 ลงสู่ $3,150
• Miners รุ่น Antminer S9 ของ Bitmain (ราคาการปิดประมาณ $3,500) ปิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย
• หกเดือนต่อมา, Bitcoin สะท้อนกลับไปยัง $14,000, ทำเครื่องหมายถึงการเพิ่มขึ้น 344%

มีนาคม 2020

• “วันพฤหัสดีดำ” พบว่าราคาของ Bitcoin ถูกรัฐบาลลดลงถึง 3,800 ดอลลาร์
• อำนาจการขุดร่วมทั้งหมดลดลง 30% เนื่องจากการปิดกั้นของนักขุด
• หลังจากคลื่นปิด บิตคอยน์เข้าสู่การวิ่งขึ้นประวัติศาสตร์ กระเเวนไปที่ 65,000 ดอลลาร์ภายใน 15 เดือน

ตลาดหมีปี 2022

• เมื่อบิทคอยน์ตกต่ำกว่า $20,000 บริษัทขุดเหมืองที่ซื้อขายในตลาดหุ้นในทวีปอเมริกาเหนือ ต้องขายทรัพย์สินบิทคอยน์ของพวกเขาเพื่อปิดค่าไฟ
• อย่างไรก็ตาม เมื่ออัตราการคำนวณลดลง 26%, Bitcoin สะท้อนกลับที่เริ่มต้นของปี 2023

ตลาดหมีปี 2022

• เมื่อบิตคอยน์ตกต่๋ากว่า 20,000 ดอลลาร์ บริษัทที่ธุรกิจขุดเหมืองที่ฝั่งเหนือของอเมริกาที่เทรดหุ้นต้องขายสินทรัพย์บิตคอยน์ของพวกเขาเพื่อปิดค่าไฟ
• อย่างไรก็ตาม เมื่ออัตราการขุดลดลง 26% บิทคอยน์ได้สะท้อนกลับที่เริ่มต้นของปี 2023

ทำไม "ปิดร้านหมายถึงด้านล่าง" มักทำงานเสมอ?

ความสำคัญอยู่ในกลไกการสร้างความถูกต้องของระบบขุดเหมือง Bitcoin:

• นักขุดขายประมาณ 900 BTC ต่อวันเพื่อปิดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้า
• คลื่นการปิดประตูยับยั้งความกดดันในการขายนี้ สร้างปฏิกิริยาข้ามด้านของการจำหน่าย
• นักลงทุนสถาบันเห็นราคาที่ถูกปิดตลาดเป็นพื้นที่ค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นเหตุให้มีความกดดันในการซื้อในระดับเหล่านี้
• การปรับความยากในการขุดเหมือนเป็นประเสริฐ—มันยิ่งถูกบีบเข้าไปลึก ก็ยิ่งทำให้มีศักยภาพในการสะท้อนกลับที่แข็งแรงขึ้น

อย่างไรก็ตามที่เคยเชื่อถือได้ แต่ตอนนี้มีความไม่แน่นอนในเงาของเทคโนโลยีขุดเหมืองใหม่

การวิวัฒนาการของเครื่องขุดเหมือง: ผู้ทำลายของคำสาปราคาที่ถูกปิด

ในขณะที่ Antminer S21 XP ทําให้ราคาปิดตัวลดลงเหลือ 29,757 ดอลลาร์ ในขณะที่ Whatsminer M30S+ ที่ล้าสมัยต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดใกล้ 85,000 ดอลลาร์ การแข่งขันเอาชีวิตรอดแบบ "hashrate Darwinism" กําลังดําเนินการอยู่ จาก Antminer S9 (ชิป 28nm, ประสิทธิภาพ 100J/TH) ในปี 2016 ไปจนถึง S21 XP (ชิป 5nm, ประสิทธิภาพ 15J/TH) ในปี 2024 ประสิทธิภาพการขุดเพิ่มขึ้นเกือบเจ็ดเท่าในแปดปี ซึ่งนับเป็นก้าวกระโดดคล้ายกับการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ไอน้ําเป็นรถไฟ maglev นักขุดรุ่นใหม่ไม่เพียง แต่ทํางานด้วยต้นทุนที่ต่ํากว่า แต่ยังผลักดันรุ่นเก่าออกจากตลาดด้วยพลังการคํานวณที่แท้จริง ตามการประมาณการของ Cambridge Centre for Blockchain Research เมื่อโมเดล S21 คิดเป็น 20% ของ hashrate เครือข่ายทั้งหมดราคาปิดระบบโดยเฉลี่ยอาจลดลง 40% สิ่งนี้ทําให้เกิดคําถามที่น่าสนใจ: หากราคาปิดระบบลดลงเหลือ 30,000 ดอลลาร์ในขณะที่ Bitcoin ผันผวนระหว่าง 40,000 ถึง 60,000 ดอลลาร์ "การฟื้นตัวแบบปิดระบบ" แบบคลาสสิกจะยังคงเป็นจริงหรือไม่?

ผลกระทบจากการแข่งขันทางด้านเหมืองแร่นี้ก้าวไกลเกินไปนอกเหนือจากตัวเลขเท่านั้น นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ชี้ชัดในรายงาน

“การปรับปรุงความสามารถในการขุดเหมืองกำลังทำให้เส้นตรงต้นทุนของบิทคอยน์เปลี่ยนรูปร่าง ลดช่วงราคาที่ต้องปิดการขายลงจากหลายหมื่นดอลลาร์เหลือเพียงไม่กี่พันเท่านั้น”

ในขณะเดียวกัน ฟาร์มขุดเหมืองขนาดใหญ่กำลังลงทุนเพื่อป้องกันกำไรผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและรักษาค่าไฟฟ้าถูกลง โดยทำให้ความสำคัญของราคาที่ต้องปิดการใช้งานเพิ่มมากขึ้นอีก ลักษณะการสะท้อนกลับที่เกิดจากราคาที่ต้องปิดการใช้งานในอดีตดูเหมือนจะถูกยุบเสียด้วยเทคโนโลยีและกำลังทุนอย่างเงียบๆ

จุดที่สำคัญของราคาการปิด: การสะท้อนกลับหรือความเงียบ?

ราคาที่ถูกปิดของบิทคอยน์ในอนาคตได้แบ่งตลาดเป็นสองค่าย

• ค่าย 'ประสิทธิภาพที่ลดลง' อ้างว่าความก้าวหน้าของฮาร์ดแวร์ได้เร็วกว่าการเปลี่ยนแปลงราคาบิทคอยน์ ทำให้ราคาที่ใช้สำหรับปิดกิจการมีความสำคัญต่อการเชื่อมโยงกับตลาดลดลงลงมากขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของ Bitcoin spot ETFs ได้ทำให้เชื่อมโยงระหว่างความกดดันในการขายของขุมนายหน้าและการกระทำราคากลายเป็นอมตะ
• ค่าแรงงานสากลที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะภายใต้นโยบายความเป็นมิตรต่อโลกที่มีคาร์บอน

ตาม CoinMetrics:

• ตลาดเหมือง Bitcoin ระดับโลกเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2023 และมียอดขายกว่า 5 พันล้านเหรียญ
• ในที่เดียวกันค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 15% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ไม่ว่าฝั่งไหนจะถูกต้อง ราคาการปิดกิจการก็กำลังเปลี่ยนแปลง:

• อิทส์อิมพลูเซ็นซ์กำลังจะสูง
• รอบการสะท้อนกลับได้สั้นลงจากเดือนเป็นสัปดาห์
• "นักขุด" ที่ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและไฟฟ้าราคาถูกกำลังเริ่มครอบครอง

บิทคอยน์ยังคงได้พึ่งราคาการปิดเพื่อสะท้อนกลับหรือไม่?

ที่ $86,900, คำตอบไม่แน่ใจ

ราคาที่ถูกปิดการซื้อขาย โดยประวัติศาสตร์ได้ตั้งสัญญาณสำคัญให้ตลาดได้ทำการขายในระดับต่ำสุดและกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนกลับของราคา แต่ในปัจจุบัน มันก้าวหน้ามากับความท้าทายใหม่:

• หากบิทคอยน์ลดลงต่อไป อุปกรณ์ใหม่ (เช่น Antminer S21 XP, ราคาหยุด ~$29,757) จะมีโอกาสที่จะยังคงใช้งานได้ ในขณะที่อุปกรณ์เก่าที่หยุดทำงานอาจช่วยลดความกดดันในการขาย ดึงดูดนักลงทุน และกระตุ้นการฟื้นตัวเล็กน้อย
• หากบิทคอยน์คงที่ระหว่าง $80,000 และ $90,000 ราคาการปิดกิจการอาจสูญเสียความสำคัญทางด้านดั้งเดิม ซึ่งทำให้เส้นทางของบิทคอยน์มีการเคลื่อนไหวโดย increasingly โดยแรงขับเคลื่อนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและอารมณ์ตลาด

ผู้ก่อตั้ง BitMEX Arthur Hayes บอกอย่างกระชับ:

“อย่าคาดหวั่นว่าราคาการปิดตลาดจะช่วยให้ตลาดซื้อเหรียญเหมือนเดิม ความผันผวนในอนาคตจะมาจากการไหลเข้าของเงินทุนภายนอก”

สัญญาณตลาดชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่ผสมผสาน

• บิทคอยน์ ได้รับความเสียหายมากที่สุดในระยะเวลาสามวันลดลง (-15%) ตั้งแต่การล่มของ FTX
• ผู้ก่อตั้ง 10x Research Markus Thielen เตือนในรายงานว่า:
  • ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด บิทคอยน์ อาจลดลงไปที่ $72,000–$74,000 ก่อนที่จะสะท้อนกลับ
  • ราคาที่เจ้าของถือครองในระยะสั้น (ราคาซื้อเฉลี่ยของ BTC ที่ถือครองน้อยกว่า 155 วัน) ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 82,000 ดอลลาร์
  • ในอดีต บิทคอยน์มีการลดลงในระดับนี้น้อยมากในตลาดขุนแน่น แต่อาจเจ็บตัวในตลาดหมีเมื่อต้องพยายามกลับมาในระดับนี้

Thielen also pointed out:

• ความสัมพันธ์ของบิทคอยน์กับความเป็นธนาคารกลางระดับโลกมีผลล่าช้า—หาก Likuiditi ของธนาคารกลางเหลืองมากขึ้น ความดันที่ลดลงอาจเพิ่มขึ้น
• อย่างไรก็ตามระดับ $82,000 อาจทำหน้าที่เป็นการสนับสนุนสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลในการสะท้อนกลับ

คำประสาทสุดท้าย: บทเรียนจากป่าแรงงาน Hashrate

สําหรับนักลงทุนทั่วไปวิวัฒนาการของราคาปิดเป็นบทเรียนการอยู่รอดที่มีค่า เมื่อตลาดเชียร์ "ราคาปิดถึง" อย่าลืมตรวจสอบแท่นขุดเจาะชั้นนําและส่วนแบ่งของ hashrate ทั้งหมด รายงานทางการเงินจากบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่เช่น Marathon และ Riot สามารถเปิดเผยสัญญาณที่ซ่อนอยู่ของแรงกดดันในการขาย เช่น อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อหนี้สิน ที่สําคัญกว่านั้นราคาปิดไม่ใช่ลูกบอลคริสตัล แต่เป็นรังสีเอกซ์ของระบบนิเวศของตลาดซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทํางานร่วมกันของ hashrate ประสิทธิภาพด้านต้นทุนและพฤติกรรมของมนุษย์ เช่นเดียวกับเครือข่ายของ Bitcoin ที่ติดตามห่วงโซ่ที่ยาวที่สุดเสมอราคาปิดจะยังคงพัฒนาควบคู่ไปกับกลยุทธ์การแสวงหาผลกําไรของนักขุดและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การฟื้นตัวอาจไม่รับประกันอีกต่อไป แต่การผจญภัยในป่าแฮชเรตนั้นยังห่างไกล

การแข่งขันทางการทำเหมืองนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเลขเท่านั้น เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ของโรงงาน Morgan Stanley เคยบ่งบอกไว้ในรายงานว่า “การปรับปรุงในประสิทธิภาพการทำเหมืองกำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนของ Bitcoin ระยะเวลาทำลายค่าปิดกิจการอาจลดลงจากหลายพันดอลลาร์เหลือเพียงไม่กี่พันเท่านั้น” ในที่เดียวกัน ฟาร์มการทำเหมืองขนาดใหญ่กำลังรักษากำไรผ่านการป้องกันด้านอนาคตและไฟฟ้าราคาถูก ทำให้ความสำคัญของระยะเวลาทำลายกิจการกำลังอ่อนแอลงลงได้อีกด้วย ปรากฎการณ์ “ผลกระทบของระยะเวลาทำลายกิจการ” ที่เคยถูกมองเป็นตัวชี้วัดทางตลาดที่ใกล้เคียงกับการใช้เวทมนต์ตอนนี้แสดงออกว่ากำลังค่อยๆ แกว้งออกภายใต้แรงดึงดูดของเทคโนโลยีและเงินทุน

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ：

1. บทความนี้ถูกโพสต์ซ้ำจาก [MarsBit], with copyright belonging to the original author [Luke, การเงินดาราศาสตร์]. If there are any objections to this reposting, please contact theGate Learnทีม และทีมจะจัดการกับเรื่องโดยเร็วตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
2. ข้อปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เพียงแสดงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เกิดเป็นการให้คำแนะนำในการลงทุนใด ๆ
3. ภาษาอื่น ๆ ของบทความนี้ได้รับการแปลโดยทีม Gate Learn นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงโดยชัดแจ้งGate.io, การทำสำเนา การกระจาย หรือการลอกเลียนแบบเนื้อหาที่ถูกแปลไม่ได้รับอนุญาต